รัฐบาลสหรัฐได้ระงับแผนการซื้อน้ำมันเข้าคลังสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) เพราะราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
กระทรวงพลังงานสหรัฐระบุว่า ทางรัฐบาลจะรักษาผลประโยชน์ของผู้เสียภาษีเป็นหลัก โดยตัดสินใจไม่ซื้อน้ำมัน 3 ล้านบาร์เรลเข้าคลัง SPR ในรัฐลุยเซียนา
“เราจะไม่ดำเนินการตามแผนปัจจุบันในการซื้อน้ำมันเข้าคลังน้ำมันสำรองบายูว ชอคทอว์ (Bayou Choctaw) และจะประเมินสภาวะตลาดก่อนตัดสินใจ” กระทรวงฯ กล่าว “เราจะติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดต่อไป”
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ของสหรัฐพุ่งทะลุระดับ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันอังคาร (2 เม.ย.) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนต.ค
รัฐบาลสหรัฐตั้งเป้าที่จะซื้อน้ำมันในราคา 79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหรือต่ำกว่านั้นเพื่อเติมน้ำมันเข้าคลังสำรอง แม้จะเคยใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในการซื้อครั้งล่าสุดจำนวน 2.8 ล้านบาร์เรลเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า กระทรวงพลังงานค่อย ๆ เติมน้ำมันสำรองฉุกเฉิน หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 40 ปี อันเนื่องมาจากสหรัฐปล่อยน้ำมันสำรอง 180 ล้านบาร์เรล เพื่อรับมือกับการที่รัสเซียบุกยูเครน
ทั้งนี้ ข้อมูลของกระทรวงพลังงานระบุว่า ปัจจุบันสหรัฐมีน้ำมันสำรองประมาณ 363 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงจากเกือบ 600 ล้านบาร์เรลเมื่อต้นปี 2565
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 เม.ย. 67)
Tags: น้ำมันดิบ, พลังงาน, สหรัฐ