บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เก็งผลงานไตรมาส 1/67 พลิกกลับมามีกำไร โดย Turnaround จากไตรมาส 4/66 ขาดทุนหนัก ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากค่าการกลั่นฟื้นตัว บวกกับราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โอกาสมีกำไรสต็อกน้ำมัน อีกทั้งในช่วงไตรมาส 2/67 คาดยังเติบโตต่อเนื่อง ตามค่าการกลั่นยืนสูงจากซัพพลายตึงตัว
เช้านี้ หุ้น SPRC เคลื่อนไหวที่ 8.70 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
นายปรินทร์ นิกรกิตติโกศล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลดำเนินงานไตรมาส 1/67 ของ SPRC คาดว่าจะพลิกกลับมามีกำไร (Turnaround) จากไตรมาส 4/66 ที่มีผลขาดทุนสุทธิถึง 4.6 พันล้านบาท เพราะขาดทุนสต็อกน้ำมันจำนวนมาก
แต่ไตรมาส 1/67 ได้ปัจจัยหนุนจากค่าการกลั่นสิงคโปร์ฟื้นตัว ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) ค่าการกลั่นสิงคโปร์เฉลี่ยอยู่ที่ 7.6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 38% QoQ ทำให้มาร์จิ้นของโรงกลั่น SPRC ดีขึ้น ส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ Crude Premium ไตรมาส 1/67 ก็ปรับตัวลงราว 2.2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/66 สะท่อนต้นทุนน้ำมันลดลง
ราคาน้ำมันดิบยังฟื้นตัวต่อเนื่อง เห็นได้จากต้นปีที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบ WTI เฉลี่ยอยู่ราว 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 82 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ประเมินโอกาสพลิกเป็นกำไรสต็อกน้ำมันในไตรมาสแรกของปี
ด้านความต้องการใช้น้ำมันในประเทศยังดีต่อเนื่อง ส่วนซัพพลาย คู่แข่งได้ปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นบางแห่ง ทำให้คาดว่า SPRC จะมี yield rate การผลิตดีขึ้น
ส่วนทิศทางการดำเนินงานในไตรมาส 2/67 ยังคาดว่าจะเติบโตดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรก เนื่องจากค่าการกลั่นสิงคโปร์ที่ยังอยู่ในระดับที่ดี จากรัสเซียที่ระงับการส่งออกน้ำมันเบนซินเป็นเวลา 6 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.เพื่อพยุงเสถียรภาพของราคาน้ำมัน และการโจมตีด้วยโดรนของยูเครนต่อโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียส่งผลให้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง ซัพพลายหายไป แต่ในขณะเดียวกันความต้องการน้ำมันเบนซินจะเร่งตัวขึ้นจากการเข้าสู่ US Driving Season ตั้งแต่ช่วงMemorial Day (เดือนพ.ค.) ถึงเดือนก.ย.
ทั้งนี้ SPRC เป็นโรงกลั่นที่ได้ประโยชน์จาก Crack Spread น้ำมันเบนซินสูงสุดด้วย Yield 25% สูงกว่าคู่แข่ง
พร้อมกันนี้ ช่วงกลางปีนี้ SPRC น่าจะมีโอกาสกลับมาเปิดใช้งานท่อ SPM ซึ่งน่าจะช่วยลดค่าขนส่งได้ราว 1-1.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และคาดว่าจะเริ่มรับรู้ผลประกอบการของสถานีบริการน้ำมัน Caltex คาดช่วยเพิ่มกำไร 300 ล้านบาท/ปี
ดังนั้น คงประมาณการปี 67 Turnaround เป็นกำไรสุทธิ 3.9 พันล้านบาท พลิกจากปี 66 ขาดทุนสุทธิ 1.2 พันล้านบาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.40 บาท ยังมีอัพไซด์ค่อนข้างมาก
นายศรชัย พิทยาพฤกษ์ นักวิเคราะห์อาวุโส กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี บล.กรุงศรี พัฒนสิน มอง SPRC เด่นสุดในกลุ่มโรงกลั่น จากแนวโน้มไตรมาส 1/67 พลิกกลับมามีกำไรจากไตรมาส 4/66 ขาดทุนหนัก หนุนโดยราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว อิงจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือนจากเดือนธ.ค.ที่อยู่ราว 71 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ น้ำมันดิบ West Texas ก็ปรับตัวขึ้นมาเช่นเดียวกัน ทำให้คาดว่าจะมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน
อีกทั้งค่าการกลั่น ไตรมาส 1/67 (QTD) ยังปรับตัวขึ้น จากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นนอกแผนใน US และซัพพลายในตะวันออกกลางลดลง รวมถึงการที่ยูเครนใช้ฝูงโดรนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันของรัสเซียอย่างหนัก ส่งผลให้ซัพพลายตึงตัว ส่วน Crude Premium ดีขึ้น
กรุงศรี พัฒนสิน ยังคงแนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.50 บาท มองเป็นหุ้นที่เด่นที่สุดในกลุ่มโรงกลั่น ในไตรมาส 1 นี้ และมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ
ด้าน บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดกำไรธุรกิจโรงกลั่นในไตรมาส 1/67 มีแนวโน้ม Turnaround ตามค่าการกลั่นและราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น (โอกาสพลิกกำไรสต๊อก) และลุ้นเดือน เม.ย.อัตรากำไรดีขึ้นได้อีก หากสามารถกลับมาเปิดใช้งานทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล (offshore Single Point Mooring หรือ SPM) ได้ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการขนส่งน้ำมันดิบลดลง 1.5-2.0 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ขณะที่ Valuation ไม่แพง Forward PE ต่ำเพียง +/-5.5 เท่า และคาด Dividend yield ปีนี้จะพลิกมาจ่ายได้สูง >10%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มี.ค. 67)
Tags: Consensus, SCOOP, SPRC, ปรินทร์ นิกรกิตติโกศล, สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง, หุ้นไทย