ค่าเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 5 เดือน โดย 22 มี.ค.24 ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่า 5.9% เมื่อเทียบกับต้นปี 2567 นับเป็นการอ่อนค่ามากสุดในรอบ 5 เดือน สอดคล้องกับภาพรวมการเคลื่อนไหวของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค โดยเป็นผลจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และมีสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางอื่นๆ อาทิ ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ที่ปรับลดดอกเบี้ยเหนือการคาดการณ์ของตลาด และธนาคารกลางอังกฤษที่ส่งสัญญาณว่าอาจมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า
นอกจากนี้ เงินบาทยังมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ และจังหวะการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลกในช่วงปลายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน
บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มค่าเงินบาทตลาดมีการคาดการณ์ยังมีทิศทางอ่อนค่าในช่วง 36.00-36.90 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตา ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ข้อมูลเงินเฟ้อ PCE พื้นฐานเดือนก.พ.ของสหรัฐฯ ตัวเลขส่งออกและดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ก.พ.ของไทย รวมถึงการเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวนจีน และราคาทองคำสำหรับหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าและมีโอกาส outperform SET มากสุด ได้แก่ ITC, TU
– ITC คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23.00 บาท มีสัดส่วนรายได้ส่งออกสูงถึง 99% และต้นทุนส่วนใหญ่เป็นเงินบาท ขณะที่กำไรปกติปี 2567 ฟื้นตัวสูง +31% YoY กลับมาโตในรอบ 2 ปี จากสถานการณ์ สินค้าคงคลัง inventory คลี่คลายขึ้น และการขยายผลิตภัณฑ์และลูกค้าใหม่
– TU คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 20.00 บาท มีสัดส่วนรายได้ส่งออกสูงถึง 90% และต้นทุน 60-70% เป็นเงินบาท ขณะที่กำไรปกติปี 2567 จะฟื้นตัวสูง +24% YoY จากการหยุดรับรู้ผลการดำเนินงาน Red Lobster และธุรกิจ Ambient และ PetCare ดีขึ้น
ด้านบล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์หุ้นที่ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า TU GFPT ITC AAI SAPPE KCE HANA DELTA
โดย ITC ได้ Sentiment บวกค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 36.4 บาท อ่อนค่ามากสุดในรอบ 5 เดือน เป็นบวกกับ ITC เพราะมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกคิดเป็น 90% ของรายได้รวม, ต้นทุนทูน่าลดลงต่อเนื่อง และยอดส่งออกมีลุ้นเป็นบวก 5 เดือนติดต่อกัน คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23.50 บาทต่อหุ้น
ขณะที่บล.ฟิลลิป ระบุว่าค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเหนือ 36.3 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นแรงหนุนต่อหุ้นกลุ่มส่งออก การลงทุน และท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทอ่อนค่ายังเป็นปัจจัยลบต่อ Fund Flow ซึ่งเสี่ยงไหลออกจากหุ้นไทย โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์จากบาทอ่อน ได้แก่ AMATA, AOT, CENTEL, CPF, ITC, MINT, WHA โดย Picks of the day คือ ITC คำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 20.50 / 21.00 บาท รับปัจจัยบวกจากบาทอ่อน และตัวเลขส่งออกพาณิชย์ประกาศสัปดาห์นี้
บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า ITC คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/67 ยังเพิ่มขึ้น YoY ตามยอดคำสั่งซื้อที่กลับมา และคาดยอดขายปี 67 จะเติบโต 15% YoY ส่วนกำไรสุทธิเติบโต 29% YoY ตามคำสั่งซื้อของลูกค้าหลัก สหรัฐและยุโรปที่ยังดีขึ้น ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ระดับ 36.7 บาทต่อดอลลาร์เป็นการอ่อนสุดในรอบ 5 เดือน คาดส่งผลบวกต่อกลุ่มส่งออก โดยให้ราคาเป้าหมาย 23.60 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มี.ค. 67)
Tags: ITC, TU, ค่าเงินบาท, หุ้นไทย