บริษัท เบน แอนด์ คัมพานี (Bain & Company) บริษัทให้คำปรึกษาด้านการจัดการจากสหรัฐ เปิดเผยรายงานหุ้นนอกตลาดเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2567 ในวันนี้ (25 มี.ค.) โดยระบุว่า มูลค่าการทำข้อตกลงหุ้นนอกตลาดทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเมื่อปีที่ผ่านมาปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2557 เนื่องจากการระดมทุนลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปีท่ามกลางเศรษฐกิจที่เติบโตชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยสูง และตลาดหลักทรัพย์ต่าง ๆ ผันผวน
อย่างไรก็ตาม มูลค่าการทำข้อตกลงหุ้นนอกตลาดของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นสวนทางภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยพุ่งทะยานขึ้นถึง 183% ในปี 2566 จากปีก่อนหน้า ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นตลาดหุ้นนอกตลาดขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นครั้งแรก
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเบนว่า ญี่ปุ่นดึงดูดการลงทุนเนื่องจากเป็นแหล่งรวมบริษัทเป้าหมาย พร้อมทั้งเป็นแหล่งสำคัญสำหรับการปรับปรุงผลประกอบการ และการปฏิรูปการจัดการได้กดดันให้บริษัทญี่ปุ่นตัดสินทรัพย์ที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลักออกไป
ขณะเดียวกัน เบนระบุว่าโดยรวมแล้วมูลค่าการทำข้อตกลงหุ้นนอกตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกปรับตัวลดลงกว่า 23% สู่ระดับ 1.47 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐจากปีก่อนหน้า ทั้งยังต่ำกว่ามูลค่าเฉลี่ยปี 2561-2565 อยู่ 35% ซึ่งเป็นอัตราการปรับลดลงที่สอดคล้องกับการชะลอตัวทั่วโลก และลดลงเกือบ 60% จากจุดสูงสุดที่ 3.59 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564
นอกจากนี้ เบนได้อ้างอิงผลสำรวจนักลงทุนปี 2566 ของพรีกิน (Preqin) ว่า ญี่ปุ่น, อินเดีย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ในกลุ่มตลาดเอเชียแปซิฟิกที่เอื้อต่อโอกาสด้านการลงทุนหุ้นนอกตลาดในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มี.ค. 67)
Tags: ญี่ปุ่น, หุ้นนอกตลาด