สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สถาบันวิจัยประชากรแห่งเยอรมนีเปิดเผยเมื่อวันพุธ (20 มี.ค.) ว่า อัตราเด็กเกิดใหม่ของเยอรมนีลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552 และเยอรมนีถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราเด็กเกิดใหม่ต่ำที่สุดของยุโรปมานานหลายทศวรรษแล้ว
ผลการศึกษาที่เผยแพร่โดยสถาบันวิจัยประชากรแห่งเยอรมนีและมหาวิทยาลัยสตอกโฮล์ม ผ่านวารสารประชากรแห่งยุโรป (European Journal of Population) พบว่า อัตราเด็กเกิดใหม่ของเยอรมนีลดลงจากเด็ก 1.57 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคนในปี 2564 มาอยู่ที่ 1.36 คนในปี 2566
ทางสถาบันระบุว่า ภาวะเจริญพันธุ์ที่ลดลงอย่างมากภายในสองปีนั้นผิดปกติ โดยการลดลงฉับพลันระยะแรกในเดือนม.ค. 2565 เป็นผลมาจากการเริ่มรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากตอนนั้นวัคซีนดังกล่าวยังไม่ได้รับอนุมัติให้ฉีดในสตรีมีครรภ์
นายมาร์ติน บูจาร์ด นักวิทยาศาสตร์ประจำสถาบัน และผู้ร่วมเขียนผลการศึกษา เปิดเผยว่า นอกจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังมีความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่มั่นคง
ด้านกระทรวงกิจการครอบครัว ผู้สูงอายุ สตรี และเยาวชนของเยอรมนีชี้ว่า ประชาชนเลื่อนการสร้างครอบครัวในยามที่เกิดความไม่แน่นอนและความตึงเครียดทางเศรษฐกิจ ตอนนี้จึงต้องลงทุนในนโยบายครอบครัวเพื่อทำให้พ่อแม่ในอนาคตรู้สึกมั่นคงที่จะสร้างครอบครัว โดยมาตรการสำคัญคือการสนับสนุนทางการเงินและการดูแลเด็กที่ครอบคลุมและมีคุณภาพสูง
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติกลางของเยอรมนีระบุว่า แม้อัตราเด็กเกิดใหม่ลดลง แต่จำนวนประชากรของเยอรมนีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 84.7 ล้านคน ณ สิ้นปี 2566 เนื่องจากมีการอพยพเข้ามาอยู่อาศัยในเยอรมนีในระดับสูง
เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลเยอรมนีได้ปฏิรูปกฎหมายคนเข้าเมืองของประเทศ เพื่อดึงดูดผู้เชี่ยวชาญในสาขาอาชีพต่าง ๆ ให้ย้ายเข้ามาพำนักอาศัยอยู่ในประเทศ เพื่อรับมือกับภาวะขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 67)
Tags: XINHUA, อัตราการเกิด, อัตราเด็กเกิดใหม่, เยอรมนี