นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชั่น X ชี้แจงถึงกรณีที่ไม่ได้การประกาศให้ จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน หลังค่าฝุ่นอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องว่า สาเหตุที่ไม่ได้ประกาศให้เชียงใหม่เป็นพื้นที่ฉุกเฉินในขณะที่ค่าฝุ่นสูง เพราะเกรงว่าจะเกิดผลกระทบในทางลบมากกว่า เนื่องจากจะมีผลกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยว ที่เพิ่งฟื้นตัวหลังจากผลกระทบโควิด-19 ซึ่งจะมีผลต่อการท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว
“ผมได้รับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว เกรงว่าหากประกาศ จะส่งผลทางลบมากกว่า เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นคือ จะกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่เพิ่งฟื้นตัวหลังจากผลกระทบโควิด-19 เพราะนักท่องเที่ยวที่ซื้อประกันมาจากบ้านเขา หากเข้ามาท่องเที่ยวในเขตภัยพิบัติหรือพื้นที่ฉุกเฉิน ประกันจะไม่คุ้มครองทันที แน่นอนว่า จ.เชียงใหม่ จะเสียนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาเที่ยวทั้งระยะสั้น และระยะยาว เราเป็นห่วงกันตรงนี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนเรื่องงบกลางที่รัฐบาลจัดสรรไปที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นั้น พร้อมเบิกจ่ายเมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) และขอย้ำว่า การจัดสรรงบกลางนี้ เป็นการจัดสรรงบตรงถึงมือพี่น้องอาสาสมัครที่อาสาเข้ามาดูแลเฝ้าระวังไฟป่า ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการจัดสรรงบฯ ในลักษณะนี้ เพราะต้องการจ้างคนในพื้นที่มาดูแลรักษาพื้นที่ของเขา ตามโจทย์ของพื้นที่ และงบฯ ที่ให้ไปมีจำนวนมากกว่างบฯ ฉุกเฉินด้วย
“วิธีบริหารจัดการเรื่องฝุ่นมีหลายวิธี รัฐบาลพร้อมรับฟังทุกข้อเสนอแนะ แต่รัฐบาลต้องตัดสินใจเลือกทางที่ดี และมีประสิทธิภาพที่สุด สำหรับพี่น้องประชาชนที่ต้องทำมาหากิน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มี.ค. 67)
Tags: PM2.5, ฝุ่น PM2.5, เชียงใหม่, เศรษฐา ทวีสิน