ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพฤหัสบดี (14 มี.ค.) หลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่แน่ใจเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงเกินคาด และการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ถ่วงตลาดหุ้นยุโรปลงด้วย
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 506.40 จุด ลดลง 0.93 จุด หรือ -0.18%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,161.42 จุด เพิ่มขึ้น 23.84 จุด หรือ +0.29%
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,942.04 จุด ลดลง 19.34 จุด หรือ -0.11% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,743.15 จุด ลดลง 29.02 จุด หรือ -0.37%
สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้นมากเกินคาดในเดือนก.พ. ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และทำให้บรรดานักลงทุนไม่แน่ใจว่า เฟดจะสามารถเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนมิ.ย.ได้หรือไม่
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจากการเปิดเผยดัชนี PPI ของสหรัฐ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของเยอรมนีปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ฉุดตลาดลงมากที่สุด โดยร่วงลง 1.4% ตามราคาโลหะพื้นฐานและโลหะมีค่าที่ปรับตัวลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มี.ค. 67)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป