นายศุกฤษฎ์ บุญสาตร์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ไทย บิทแคสต์ จำกัด กล่าวว่าปีนี้มีหลายคนคาดการณ์ว่าตลาดคริปโทอยู่ในช่วงของตลาดกระทิง (Bull run) หรือเป็นช่วงขาขึ้น โดยกรอบราคามีความเป็นไปได้ที่จะถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่กรณีที่แย่ที่สุดอาจอยู่ระดับ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น
โดยปัจจัยหลักที่สนับสนุนตลาดประกอบด้วย ความต้องการของตลาดที่จะครอบครอง Bitcoin ผ่าน Spot Bitcoin ETF รวมทั้งปีนี้ Bitcoin จะมีการลดปริมาณการผลิตลงครึ่งหนึ่งที่เรียกว่า Halving ที่จะเกิดขึ้นราว ๆ ทุก 4 ปี ซึ่งปริมาณ Bitcoin ที่สำรองใน Exchange รวมกันอยู่ในระดับที่ต่ำ มีการซื้อแล้วโอนออกไปเก็บทั้งนักลงทุนสถาบันและรายย่อยอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ทั้งนี้ปัจจุบันมีการผลิตเติม Bitcoin เข้ามาประมาณ 900 Bitcoin ต่อวัน จะเหลือ 450 Bitcoin ต่อวัน
นอกจากนี้การอนุมัติ Spot Ethereum ETF ที่คาดว่าจะมีการอนุมัติในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งทำให้บุคคลธรรมดาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และเมื่อดีมานด์สูงขึ้นจะเป็นปัจจัยที่ช่วยผลักดันมูลค่าในตลาดคริปโทได้อีก อย่างไรก็ตามการขึ้นราคาของเหรียญในตลาดคริปโท อาจก่อให้การโจรกรรม เพราะต้นทุนในการโจรกรรมเท่าเดิมแต่ผลตอบแทนสูงขึ้น รวมทั้งนักลงทุนใหม่ที่เข้ามาในตลาดมากขึ้น ทำให้ความเสียหายจากการโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นตามราคาของ Bitcoin และคริปโทอื่น ๆ ซึ่งปีที่ผ่านมามูลค่าความเสียหายที่เกิดจากการโจรกรรมทางไซเบอร์โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับคริปโทฯ มีมูลค่า 24,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
บริษัทเข้าใจความต้องการของตลาด และเล็งเห็นว่าการเติบโตของตลาดจะยั่งยืนได้ผู้ใช้งานต้องมีความรู้ ความตระหนัก และมีเทคโนโลยีที่เหมาะสม ดังนั้นบริษัทจึงได้นำเอา Hardware Wallet Brand OneKey เข้ามาจัดจำหน่าย และบริษัทได้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และยังมุ่งให้ความรู้ ผ่านการจัด Workshop และ Meetup เป็นประจำ หวังขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ในด้านการให้คำปรึกษาและโซลูชั่นสำหรับเก็บรักษา Bitcoin และ Digital Asset ด้วยตนเอง
โดยบริษัทได้เริ่มจำหน่ายเมื่อเดือนม.ค. ที่ผ่านมา และได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างดี ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย และมีความต้องการขยายการจัดจำหน่ายไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากปัจจุบันในภูมิภาคมีการจัดจำหน่ายในประเทศมาเลเซีย ซึ่งยังมีโอกาสในการขยายไปในประเทศอื่น ๆ อีก แต่ในเฟสแรกจะสร้างฐานการจัดจำหน่ายในไทยให้แข็งแรงก่อน
และภายในปีนี้บริษัทจะมีบริการใหม่ นั่นคือการรับจ้างกู้กระเป๋าคริปโทสำหรับผู้ที่มีปัญหาใน การกู้คืนสินทรัพย์ที่ติดอยู่ในกระเป๋าแล้วไม่สามารถจัดการเองได้ รวมไปถึงบริการบุคคลธรรมดาหรือ นิติบุคคลต้องการโซลูชั่นในการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัย อย่างเช่น Multi-Sig Wallet เป็นต้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 มี.ค. 67)
Tags: Cryptocurrency, Spot Bitcoin ETF, ศุกฤษฎ์ บุญสาตร์, ไทย บิทแคสต์