นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปี 67 ที่ 1 พันล้านบาท เติบโตกว่า 47% จากปี 66 ที่มีรายได้ที่ 681.1 ล้านบาท จากการขับเคลื่อนภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทในก้าวขึ้นสู่ปีที่ 50 นับจากก้าวแรกคือการก่อตั้ง บริษัท โอเวอร์ซีส์ ซิคิวริตี้ส์ แอนด์ อิสดัสเตรียล คอนเซาส์เทอน จำกัด ให้บริการนายหน้าค้าหลักทรัพย์ กิจการค้าหลักทรัพย์และกิจการที่ปรึกษาการลงทุน จนกระทั่งได้ทำการเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจโดย บมจ.แสนสิริ (SIRI) และ บมจ.วิริยะประกันภัย เข้ามาถือหุ้นใหญ่ และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) ในปี 64
ปีนี้ถือเป็นอีกก้าวย่างที่สำคัญแห่งการปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ ภายใต้แนวคิด “Lessons Learned for Better Tomorrow เรียนรู้และพัฒนาเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน” มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจรสำหรับนักลงทุน และผู้ต้องการเงินทุน ภายใต้ Ecosystem ของบริษัท ซึ่งปัจจุบันยอมรับว่า XPG ยังคงเป็นบริษัทที่เล็กมากในตลาดธุรกิจการเงิน ทำให้ต้องหันมามองหาโอกาสใหม่ๆทางธุรกิจ โดยเฉพาะการเชื่อมระหว่างคนที่ต้องการใช้เงินกับคนที่ต้องการลงทุน ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจในการเติบโต
“เรามีจุดที่เราไม่น้อยกว่าคนอื่น เรามีทีมที่สามารถวางแผนกลยุทธ์ หาเงินทุน ปรับธุรกิจ วางโครงสร้างทางการเงินให้ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของเราเป็นบริษัทเล็ก บริษัทใน mai เราจะเข้าไปช่วยในการปรับปรุง หรือฟื้นฟูธุรกิจ ซึ่งเป็นจุดแข็งของเราในงานด้านวาณิชธนกิจ แต่อย่าไปคาดหวังจะก้าวกระโดด กำไรจะค่อยๆเป็นค่อยไป เพราะปีนี้เข้า Xspring จะเข้าสู่ Business Transformation ในการพัฒนาด้านอื่นที่ยังไม่ดี ให้แข็งแกร่ง เข้ามาเสริมศักยภาพธุรกิจ”
ส่วนของเงินทุนที่ XPG จะเข้ามารองรับในส่วนของการธุรกิจด้านวาณิชธนกิจในการให้สินเชื่อลูกค้าธุรกิจ รูปแบบ Private Credit มีเงินทุนรองรับราว 1 หมื่นล้านบาท มาจากเงินทุนของบริษัทราว 9 พันล้านบาท และเงินเพิ่มทุนที่กำลังจะเข้ามา 1 พันล้านบาท ทำให้เพียงพอสนับสนุนการให้เงินทุนกู้ยืมต่อผู้ประกอบการธุรกิจ
นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ XPG กล่าวว่า XSpring ได้สร้าง Ecosystem ของกลุ่ม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ครอบคลุมด้วยบริการทางการเงิน 6 ธุรกิจ แยกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1. บริการทางการเงินสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเงินทุน ประกอบด้วย
– บริการด้านวาณิชธนกิจ (Investment Banking)ให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินการลงทุนครบวงจรด้วยความเชี่ยวชาญ ครอบคลุมการควบรวมกิจการ การฟื้นฟูและปรับโครงสร้างกิจการ การออกตราสารหนี้ การระดมทุนทั้งในรูปแบบการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และการระดมทุนแบบดิจิทัลด้วยการเสนอขายโทเคนดิจิทัลผ่านระบบบล็อกเชนต่อสาธารณชน (ICO)
– ธุรกิจสินเชื่อ (Debt Financing) ส่งเสริมและสนับสนุนด้านการเงินให้กับบริษัทที่มีศักยภาพสูง ต่อยอดและพัฒนาให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการปล่อยกู้ตรงจากบริษัทฯ และการปล่อยกู้ผ่านตราสารหนี้ (หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน และตั๋วสัญญาใช้เงิน) และตราสารหนี้นอกตลาด (Private Credit)
2. บริการทางการเงินสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการลงทุน ประกอบด้วย
– ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management)ให้บริการสินค้าด้านการลงทุนที่หลากหลายให้ลูกค้าเลือกแบบครบวงจร ทั้งจากพันธมิตรบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) รวม 16 แห่ง และกองทุนต่าง ๆ ที่เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท เช่น กองทุนส่วนบุคคลประเภท Private Equity Real Estate
– ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัล (Brokerage) ให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัล
3. ธุรกิจภายใต้กลุ่มบริษัทเอ็กซ์สปริง ประกอบด้วย
– ธุรกิจการลงทุน (Investment) มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจ ที่มีศักยภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อผลตอบแทนสูงสุด โดยแบ่งการลงทุนใน 3 ประเภทธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) ธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค (Customer Centric) ธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (ESG) โดยปัจจุบัน XSpring ได้เข้าไปถือหุ้นในสตาร์ตอัปที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับความยั่งยืน เช่น บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้ให้บริการสถานีชาร์จภายใต้แบรนด์ REVERSHARGERและบริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ จำกัด ธุรกิจพลังงานสะอาดโดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ เป็นต้น
– ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (Distressed Asset Management) อีกหนึ่งธุรกิจของกลุ่ม XSpring ที่ได้ดึงเอาจุดแข็งจากการมีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มผู้ถือหุ้นและผู้บริหารสร้างความได้เปรียบในการวางกลยุทธ์การคัดเลือกทรัพย์คุณภาพ โดยในปีที่ผ่านมา XSpring บริหารพอร์ตหนี้แล้วกว่า 4 พันล้านบาท ทั้งหนี้สินเชื่อทั่วไปแบบมีหลักประกัน และไม่มีหลักประกัน รวมทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ โดยได้จับมือกับ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้นำด้านบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรในการเป็นพันธมิตรจัดการขายทรัพย์สินรอการขาย (NPA)
บริการทั้งหมดของ XSpring ขับเคลื่อนภายใต้กลยุทธ์Business Transformation สู่ความเป็นหนึ่งเดียว โดยได้ปฏิรูปกระบวนการทำงาน (Process) การพัฒนาทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (Technology) และการพัฒนาบุคลากร
ในปี 67 รายได้หลักยังคงมาจากส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทร่วม โดยเฉพาะธุรกิจที่ยังคงเติบโตดีและมีจุดแข็ง คือ ธุรกิจวาณิชธนกิจ ในการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ ทำให้บริษัทมีรายได้จากดอกเบี้ยและกำไรจากการลงทุนเข้ามาราว 600 ล้านบาท และรายได้ที่มาจากธุรกิจหลักทรัพย์ บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ที่ร่วมทุนกับธนาคารกรุงไทย (KTB) ที่จะกลับมาดีขึ้น จากที่บริษัทคาดว่าตลาดหุ้นเริ่มกลับมาคึกคัก หลังจากที่ทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่จุดสูงสุด และเตรียมเข้าสู่ภาวะดอกเบี้ยขาลง ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาในตลาดหุ้นอีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นฟื้นตัว และหนุนรายได้ต่อธุรกิจโบรกเกอร์มากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนแบ่งรายได้เข้ามาราว 100 ล้านบาท และรายได้ที่มาจากค่าธรรมเนียมจากการให้บริการของธุรกิจ Wealth management และการให้บริการด้านกองทุนรวมราว 300 ล้านบาท
นางสาววรางคณา กล่าวว่า บริการ Private Credit หรือสินเชื่อที่ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ เป็นสิ่งที่ XPG มีความเชี่ยวชาญมาก และมีลูกค้าสนใจเข้ามาขอสินเชื่อค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการพัฒนาโครงการในกรุงเทพฯทั้งรายกลางและรายเล็ก บางส่วนต้องการไปวางมัดจำที่ดินระหว่างรอสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อ ส่วนใหญ่ปล่อยเป็นสินเชื่อระยะสั้นไม่เกิน 6 เดือนและมีหลักประกัน ทำให้มีความเสี่ยงต่ำมาก และสามารถสร้างรายได้ดอกเบี้ยได้ดี
ขณะที่ธุรกิจ Wealth Management และบริหารจัดการกองทุนรวม ปัจจุบันมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) อยู่ที่ราว 7 พันล้านบาท ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นอีก 1.5 พันล้านบาท โดยจะออกกองทุนรวมสำหรับกลุ่มลูกค้า Ultra high networt (UHNW) ที่เป็น Private Real Estate Fund ออกมานำเสนออีกราว 5 กองทุน ต่อยอดจากปีก่อนที่ทำกองทุนโครงการของ SIRI แต่ปีนี้จะร่วมมือกับผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายอื่นเพิ่มเติม เพื่อสร้างทางเลือกในการลงทุนใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ประกอบกับการกองทุนรวมทั่วไปทั้งกองทุนรวมตราสารหนี้ และกองทุนรวมหุ้น ที่ในปีนี้จะมีแผนการออกอีก 4-5 กองทุน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มี.ค. 67)
Tags: XPG, ระเฑียร ศรีมงคล, หุ้นไทย, เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล