จากที่ประชุม กกต. วานนี้ (12 มี.ค.) มีมติเอกฉันท์เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ที่เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า เป็นการศึกษาพิจารณาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด จนกระทั่งถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการเมื่อ 29 ก.พ. และ กกต.ก็ใช้เวลาในการพิจารณาเพิ่มเติม รวมถึงข้อเสนอแนะ จนเป็นที่มาของผลการประชุม กกต. เมื่อวานนี้
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า กกต.มีใบสั่งให้ยื่นยุบพรรคก้าวไกลนั้น นายอิทธิพร ระบุว่า เป็นการทำงานตามกฎหมาย คนที่จะสั่งให้ กกต.ปฏิบัติหน้าที่ ก็คือกฎหมายที่เขียนเอาไว้ หากมองตามรัฐธรรมนูญ กกต. เป็นองค์กรอิสระองค์กรหนึ่งที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม เพราะฉะนั้นหากไม่ทำตามกฎหมาย ถือว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่
ส่วนกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. ระบุว่า โทษของการยุบพรรคก้าวไกลอาจร้ายแรงถึงขั้นถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ประธาน กกต. กล่าวว่า ตามมาตรา 92 แล้ว หาก กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค กกต. สามารถยื่นให้ศาลพิจารณาเพิกถอนสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้
โดยตามกฎหมายแล้ว ศาลจะสั่งห้ามตั้งพรรคใหม่ ห้ามเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองอื่น ซึ่งตามกฎหมายศาลจะสั่งห้ามไม่ให้เกิน 10 ปี ซึ่งเป็นโทษสูงสุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มี.ค. 67)
Tags: การเมือง, พรรคก้าวไกล, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, มาตรา 112, ศาลรัฐธรรมนูญ, อิทธิพร บุญประคอง