นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนก.พ.67 อยู่ที่ระดับ 90.0 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากระดับ 90.6 ในเดือนม.ค.67 จากยอดขายโดยรวม, คำสั่งซื้อโดยรวม, ปริมาณการผลิต และผลประกอบการที่ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยลบจากอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพและปัญหาหนี้ครัวเรือน ส่งผลให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย
ด้านการส่งออกยังคงชะลอตัว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ยังอ่อนแอ โดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น ประกอบกับปัญหาความขัดแย้งบริเวณทะเลแดงยังคงยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อการนำเข้า-ส่งออกของไทย โดยเฉพาะตลาดยุโรป และตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังเผชิญปัญหาการแข่งขันด้านการตลาดสูงขึ้น รวมถึงได้รับผลกระทบจากสินค้าราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐานจากต่างประเทศ ส่งผลให้ยอดขายสินค้าของผู้ประกอบการไทยลดลง ขณะที่ต้นทุนราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง และผลจากมาตรการวีซ่าฟรี (Visa Free) ให้กับนักท่องเที่ยวจีน คาซัคสถาน อินเดีย และไต้หวัน รวมถึงมาตรการ Easy E-Receipt ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ และมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.67 ส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ
ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 100.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 98.4 ในเดือนม.ค.67 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและการบริภคในประเทศ ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐจะเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 2/67 หลังจาก พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 2567 ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ
ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยต้องติดตาม ได้แก่ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก ขณะที่สถานการภัยแล้งจากปรากฎการณ์เอลนีโญ อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบในภาคเกษตรและปริมาณน้ำในภาคอุตสาหกรรม
ส.อ.ท.มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ดังนี้
1. ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว
2. เสนอให้ภาครัฐต่ออายุมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิง โดยตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร และตรึงราคาก๊าซหุงต้มไว้ที่ 423 บาท/ถัง 15 กก. ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค.นี้
3. สนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มสัดส่วนการจัดซื้อจัดจ้างผู้ประกอบการ SMEs เป็นไม่น้อยกว่า 50% ของงบประมาณจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะในหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มี.ค. 67)
Tags: การนำเข้า, ค่าครองชีพ, ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ส.อ.ท., ส่งออก, หนี้ครัวเรือน, อิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต