ราคาทองในประเทศ ตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค. ผ่านมาเพียง 11 วัน ปรับขึ้นอย่างร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าทำสถิติ All Time High รายวันกันเลยทีเดียว แต่ราคาทองจะไปสุดที่ไหน?
บรรดากูรูต่างมองว่าราคาน่าจะยังมีแนวโน้มขึ้นไปได้อีก แต่คาดเดายาก เพราะที่ผ่านมาถือว่าขึ้นมาเหนือความคาดหมาย และเกินแนวต้านไปมากแล้ว นายพีรพงศ์ ฉัตร์ทอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ราคาทองที่ปรับตัวสูงขึ้นมาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่สามารถคาดเดาล่วงหน้าได้ เช่น ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าทองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
“ราคาปรับขึ้นเกินความคาดหมาย เพราะเกินแนวต้านที่คาดการณ์ไว้เยอะ ราคาน่าจะปรับขึ้นอีกแต่คาดเดาได้ยาก” นายพีรพงศ์ กล่าว
ปี 67 ราคาไปต่อ เก็งได้เห็น 38,000 บาทแน่!!
นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ให้มุมมองว่า ระยะยาวมองว่าราคาทองในตลาดโลกมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นถึง 2,200 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือราคาปลีกในประเทศไปอยู่ที่บาททองคำละ 38,000 บาท
สาเหตุที่ราคาทองปรับตัวสูงขึ้นน่าจะมาจากแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงกลางปีนี้ ขณะที่ธนาคารกลางในหลายประเทศมีการซื้อทองเข้าสต็อกเพิ่มเติม โดยส่วนตัวคาดว่าคงมีการเข้ามาซื้อของกองทุนต่างประเทศด้วย และราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นมากทำให้มีนักลงทุนในประเทศหันมาซื้อทองเก็บไว้เพื่อเก็งกำไร
“ทุกครั้งที่ราคาปรับขึ้นก็ไม่เป็นอย่างนี้ ครั้งนี้ปรับขึ้นแรงและต่อเนื่องเป็น 10 วันแล้ว คาดว่าราคายังมีแนวโน้มปรับขึ้นไปอีก…หากเฟดปรับลดดอกเบี้ยแล้วราคาน่าจะขึ้นไปต่ออีกระลอก” นายจิตติ กล่าว
“อินโฟเควสท์” พาย้อนดูราคาทองย้อนหลังไปช่วงเวลา 10 ปี (2557-2566) จะเห็นว่า ราคาทองค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นและทำราคาสูงสุดใหม่เรื่อยๆ
ข้อมูลจากสมาคมค้าทองคำ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มี.ค. 67)
