หน่วยข่าวกรองสหรัฐระบุในรายงานที่แถลงต่อสภาครองเกรสเมื่อวันจันทร์ (11 มี.ค.) ว่า สหรัฐกำลังเผชิญกับระเบียบต่าง ๆ ของโลกที่กำลังเปราะบางลงเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นผลจากความตึงเครียดจากความท้าทายต่าง ๆ ตั้งแต่การแข่งขันของมหาอำนาจ ไปจนถึงความท้าทายระหว่างประเทศและความขัดแย้งในภูมิภาค
รายงานประเมินภัยคุกคามประจำปี 2567 จากหน่วยข่าวกรองสหรัฐพบว่า จีนมีความทะเยอทะยานและน่ากังวล รัสเซียกำลังเป็นภัยคุกคาม รวมถึงอิหร่าน และกลุ่มอื่น ๆ ที่ไม่ใช่รัฐใดรัฐหนึ่งกำลังท้าทายกฎเกณฑ์ของระบบระหว่างประเทศที่มีมายาวนาน รวมถึงการครองอำนาจของสหรัฐในระบบนั้น
รายงานดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่ภัยคุกคามจากจีนและรัสเซีย ซึ่งถือเป็นคู่แข่งอันดับต้น ๆ ของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงกรณีที่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานยูเครนเมื่อกว่า 2 ปีที่แล้ว พร้อมทั้งระบุถึงความเสี่ยงของความขัดแย้งในวงกว้างที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลต่อกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสก่อเหตุโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566
รายงานระบุว่า จีนช่วยเหลือรัสเซียทั้งในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงระหว่างที่รัสเซียทำสงครามในยูเครน โดยสนับสนุนขีดความสามารถทางอุตสาหกรรมของรัสเซีย นอกจากนี้ รายงานยังเตือนด้วยว่าจีนอาจใช้เทคโนโลยีเพื่อพยายามบิดเบือนผลลัพธ์ของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังจะมาถึงในเดือนพ.ย.นี้
รายงานภัยคุกคามระบุอีกว่าการค้าระหว่างจีนและรัสเซียเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่สงครามยูเครนเริ่มต้นขึ้น และการส่งออกสินค้าที่มีแนวโน้มนำไปใช้ในทางทหารจากจีนก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่านับตั้งแต่ปี 2565
“จีนอาจพยายามมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งสหรัฐในปี 2567 ในระดับหนึ่ง โดยอาจมีความต้องการจะยับยั้งการวิพากษ์วิจารณ์จีนและแสวงหาผลประโยชน์จากความแตกแยกทางสังคมในสหรัฐ” รายงานระบุ
ในระหว่างการแถลงต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภา นางเอวริล เฮนส์ ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐ เรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติอนุมัติความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมสำหรับยูเครน โดยระบุว่า “เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่ายูเครนจะสามารถรั้งดินแดนที่ช่วงชิงกลับคืนมาจากรัสเซียให้ยังคงอยู่ได้อย่างไร หากปราศจากความช่วยเหลือจากสหรัฐ”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มี.ค. 67)
Tags: สหรัฐ, หน่วยข่าวกรอง