นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในเดือนเม.ย.นี้ อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์เกือบทุกรายมีความเห็นตรงกันว่า มีความเป็นไปได้ที่ BOJ อาจจะยุติการใช้นโยบายดังกล่าวในการประชุมสัปดาห์หน้า (18-19 มี.ค.)
ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จำนวน 50 คนซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กบ่งชี้ว่า โอกาสที่ BOJ จะยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในเดือนเม.ย.นั้น ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 54% จากระดับ 59% ในการสำรวจเมื่อเดือนม.ค.
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์อีกส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่า มีโอกาส 38% ที่ BOJ จะยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในการประชุมวันที่ 18-19 มี.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับเพียง 8% ที่ได้มีการสำรวจก่อนหน้านี้ แต่ไม่ว่าการคาดการณ์จะเป็นเช่นใด นักเศรษฐศาสตร์เหล่านี้ก็มีความเห็นตรงกันว่า มีโอกาสมากถึง 90% ที่ BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
มุมมองที่เปลี่ยนแปลงไปของนักเศรษฐศาสตร์เหล่านี้เกิดขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนของ BOJ ได้ออกมาส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลง และมีขึ้นหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของญี่ปุ่นกำลังเคลื่อนตัวสู่เป้าหมายของ BOJ ส่วนปัจจัยที่สำคัญอีกหนึ่งปัจจัยคือผลการเจรจาค่าจ้างระหว่างฝ่ายบริหารของภาคธุรกิจและสหภาพแรงงานญี่ปุ่นซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้
ก่อนหน้านี้ นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเจรจาเกี่ยวกับค่าจ้าง และหลักฐานที่บ่งชี้ถึงทิศทางการเพิ่มขึ้นของค่าจ้าง ขณะที่สมาพันธ์สหภาพการค้าของญี่ปุ่นหรือเรนโก (Rengo) ระบุว่า สหภาพแรงงานหลายแห่งได้เรียกร้องการปรับขึ้นค่าจ้างโดยเฉลี่ย 5.85% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับระดับ 4.49% ในปีที่แล้ว
ผลสำรวจยังระบุด้วยว่า นักเศรษฐศาสตร์กลุ่มที่คาดว่า BOJ จะยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในเดือนเม.ย.นั้น เชื่อว่า BOJ จะรอดูข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมก่อนการประชุมในวันที่ 25-26 เม.ย. โดยข้อมูลเหล่านี้รวมถึงผลสำรวจความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ (ทังกัน) และการแสดงความเห็นจากบรรดาผู้จัดการสาขาของ BOJ เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในแต่ละภูมิภาค นอกจากนี้ BOJ จะทำการเปิดเผยรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจรายไตรมาส ซึ่งรายงานดังกล่าวจะช่วยให้ BOJ สามารถประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มี.ค. 67)
Tags: BOJ, ญี่ปุ่น, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, อัตราดอกเบี้ย