สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (7 มี.ค.) จากแรงเทขายทำกำไร หลังราคาน้ำมันทะยานกว่า 1% ในวันพุธ (6 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนผิดหวังหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ยังไม่มีกรอบเวลาชัดเจนสำหรับการดำเนินการดังกล่าว
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 78.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ปิดที่ 82.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของวันพุธ
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธว่า “เราเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเรามีแนวโน้มอยู่ที่ระดับสูงสุดสำหรับวงจรปัจจุบันแล้ว และหากเศรษฐกิจมีการปรับตัวตามที่เราคาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นการเหมาะสมที่เฟดจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายในปีนี้”
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดยังไม่มีกรอบเวลาชัดเจนสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่า “ในการพิจารณาปรับเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เราจะทำการประเมินอย่างระมัดระวังต่อข้อมูลที่ได้รับ รวมทั้งแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไป และการรักษาสมดุลของความเสี่ยง โดยคณะกรรมการเฟดมองว่ายังคงไม่เหมาะสมที่จะปรับลดเป้าหมายอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังปรับตัวสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน”
นอกจากนี้ ในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้ นายพาวเวลได้ถูกกดดันจากนายเชอร์ร็อด บราวน์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งได้ซักถามว่าเหตุใดเฟดจึงไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการตกงานของกลุ่มคนวัยทำงาน
นายพาวเวลตอบว่า “เราตระหนักดีถึงความเสี่ยงดังกล่าว และได้พยายามหลีกเลี่ยง ซึ่งหากเศรษฐกิจมีการปรับตัวตามที่เราคาดหวังไว้ และมีความคืบหน้าในการทำให้เงินเฟ้อชะลอตัวลง เราก็คิดว่ากระบวนการผ่อนคลายนโยบายจะสามารถเริ่มต้นขึ้นในปีนี้”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มี.ค. 67)
Tags: น้ำมัน, น้ำมัน WTI, น้ำมันดิบ, ราคาน้ำมัน