รัฐบาลพร้อมดันไทยเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยว-อีเวนท์ระดับโลก สั่งวางแผนเชิงรุก 5 ปี

รัฐบาล มอบหมายหน่วยงานเกี่ยวข้อง​ เตรียมความพร้อม​ วางแผนเชิงรุก​ ดึงกิจกรรมระดับโลกหลากรูปแบบ​มาที่ไทย​ ปี 2568 – 2572 เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่รัฐบาลพร้อมสนับสนุน เชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการจัด และสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ไม่นิ่งดูดายในกรณีมีการวิพากษ์วิจารณืเกี่ยวกับการแสดงคอนเสิร์ตของ Taylor Swift ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยพร้อมรับฟังทุกข้อเสนอแนะ ซึ่งประเทศไทยพร้อมรองรับการจัดกิจกรรมและมหกรรมระดับโลกได้ หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน ซึ่งการจะดึงดูดนักแสดงระดับโลกเข้ามา ควรมีการทำงานเชิงรุกและจัดตารางให้เต็มตลอดปี โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการไปที่สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) ให้ออกแบบแผนการเชิงรุก 5 ปีครอบคลุมปี 68-72 และให้เร่งมานำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว

ทั้งนี้ ในเบื้องต้น นายกรัฐมนตรี ตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และการจัดกิจกรรมต่างๆ ระดับโลกเพิ่มขึ้นปี 68-72 ซึ่งได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการทันที

นางรัดเกล้า กล่าว่า การเตรียมความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางการจัดกิจกรรมและมหกรรมระดับโลก ต้องมีองค์ประกอบหลายด้าน เช่น ด้านคมนาคม ซึ่งก่อนหน้านายกรัฐมนตรีได้มีการประกาศแผนการพัฒนาระบบการบิน Aviation Hub 2567 พัฒนาไทยเป็นศูนย์กลางการบินการขนส่งของภูมิภาค ด้วยเป้าหมายที่จะขยายสุวรรณภูมิให้เป็น Hub ใหญ่ระดับโลกไปแล้ว ส่วนด้านโครงสร้างพื้นฐานเดินทางในประเทศ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับกระทรวงคมนาคมให้ร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ รวมถึงภาคเอกชน บูรณาการการพัฒนาระบบการเดินทางในเมืองหลัก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น

นางรัดเกล้า ยังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ยืนยันถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านว่า มีความสำคัญเป็นอย่างมาก อย่าปล่อยให้ประเด็นการจัดคอนเสิร์ตของนักแสดงระดับโลกมาบั่นทอนความรู้สึกที่เรามีต่อกัน

ทั้งนี้ ในการทำธุรกิจและการตลาดนั้น การทำสัญญาอนุญาตให้ได้สิทธิแต่เพียงผู้เดียว (exclusive licensing agreement) ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ สิ่งที่เราต้องทำคือ ย้อนกลับมาเรียนรู้และพัฒนาตัวเราเอง

สำหรับประเทศไทยแล้ว เราก็ถือว่าเป็นศูนย์กลางธุรกิจไมซ์ของเอเชีย (Asia’s MICE Hub) เพราะเรามีที่ตั้งของประเทศที่อำนวยให้กับการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน เพราะสามารถเชื่อมโยงไปทั่วภูมิภาคเอเชียได้ เรามีอัตลักษณ์ มีการแก้ไขกฎระเบียบให้สะดวกขึ้น มีมาตรการจูงใจผู้ประกอบการ และที่สำคัญเรามีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ทั้งทางราง ทางอากาศ อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ระบุอีกว่า ขอให้มั่นใจว่าไทยพร้อมจะเป็นศูนย์กลางกิจกรรมระดับโลกหลากรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัด Bangkok World Pride ที่ตอนนี้แผนขยายไปเป็นปี 73 หรือคอนเสิร์ตของศิลปินดังระดับโลกในอนาคต “เราไม่ได้พลาดโอกาสอะไร แค่เวลาที่ใช่ของเรายังมาไม่ถึง”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มี.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top