สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ขณะที่จีนกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้มอบหมายให้กระทรวงและรัฐบาลท้องถิ่นปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ใหม่ได้แก่ การปลดปล่อย “พลังการผลิตใหม่” (new productive forces)
ในรายงานการทำงานประจำปีที่เปิดเผยต่อสภานิติบัญญัติจีนเมื่อวันอังคาร (5 มี.ค.) นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนให้คำมั่นว่าจะสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดครั้งใหม่ ผ่านการสนับสนุนภาคส่วนและอุตสาหกรรมที่กำลังพัฒนา รวมถึงภาคยานยนต์ไฟฟ้า วัสดุใหม่ การบินอวกาศเชิงพาณิชย์ เทคโนโลยีควอนตัม และวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต
คำว่า “พลังการผลิตใหม่” ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกโดยนายสีเมื่อเดือนก.ย.ปีที่ผ่านมาระหว่างการเดินทางไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งเขาได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของรูปแบบใหม่ ๆ ในการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยอาศัยนวัตกรรมในภาคส่วนที่ก้าวหน้า
วิสัยทัศน์นี้มุ่งเน้นที่ศักยภาพของการเติบโตในอนาคต โดยเปลี่ยนความสนใจจากความยากลำบากในปัจจุบันของจีนซึ่งรวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอ ผลกระทบจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงมีอยู่ และหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น
แต่แนวทางที่จีนจะดำเนินการตามวิสัยทัศน์นี้ ซึ่งเป็นความท้าทายที่รัฐสภาจีนระบุเมื่อวันอังคาร (5 มี.ค.) นั้น ยังคงไม่ชัดเจน และความสำเร็จของความพยายามดังกล่าวก็ยังไม่แน่นอน
“ทิศทางของการส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีนั้นถูกต้อง แต่ความกังวลของผมคือการทำอย่างไรจึงจะบรรลุเป้าหมาย เราควรพึ่งพาเส้นทางใดและกลไกของสถาบันใดในการขับเคลื่อนนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและเพิ่มผลผลิต” ที่ปรึกษาด้านนโยบายของจีนรายหนึ่งเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์
“ความจริงก็คือกลไกตลาดกำลังถดถอย และรัฐบาลนั้นมีอิทธิพลในการขับเคลื่อน”
จีนหวังว่าวิสัยทัศน์ “พลังการผลิตใหม่” จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับจีนในช่วงที่แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงมาตรการของสหรัฐในการ “แยกตัว” หรือ “ลดความเสี่ยง” ได้จำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีจากต่างประเทศ
“การให้ความสำคัญกับพลังการผลิตใหม่ในวาระการประชุมนั้นสะท้อนความกังวลของบรรดาผู้นำที่ว่า จีนอาจตามหลังสหรัฐในด้านเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ชิปขั้นสูงและปัญญาประดิษฐ์” เทียนเฉิน ซู นักเศรษฐศาสตร์จากอีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (EIU) ในกรุงปักกิ่งระบุ
ขณะเดียวกัน นายหลี่ยังได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะลงทุนเพิ่มเติมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เขากล่าวว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ และการประยุกต์ใช้บิ๊กดาต้า
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์หลายรายมองว่า การเพิ่มอุปสงค์ในประเทศเป็นลำดับความสำคัญเร่งด่วนที่สุดของจีน แต่นายหลี่กลับให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวน้อยลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มี.ค. 67)
Tags: การผลิต, จีน, สี จิ้นผิง