ประเทศไทยร้อนปรอทแตก ทะลุ 50 องศา! เข้าเกณฑ์ “อันตราย”

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายค่าดัชนีความร้อน หรือ Heat Index (อุณหภูมิที่คนรู้สึกได้ถึงอากาศร้อนในขณะนั้น) วันนี้ว่าจะพุ่งสูงสุดถึง 50 องศาเซลเซียส โดยจังหวัดที่มีดัชนีความร้อนสูงสุดรายภาค ได้แก่

– ภาคเหนือ: จ.ตาก 39.9 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับเตือนภัย

– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จ.นครราชสีมา 38.7 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับเตือนภัย

– ภาคกลาง: กรุงเทพฯ 48.1 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับอันตราย

– ภาคตะวันออก: จ.ตราด 50.6 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับอันตราย

– ภาคใต้: จ.กระบี่ 42.5 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับอันตราย

 

ส่วนวันพรุ่งนี้ ( 6 มี.ค. 67) คาดหมายจังหวัดที่มีดัชนีความร้อนสูงสุดรายภาค ได้แก่

– ภาคเหนือ: จ.ตาก 39.6 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับเตือนภัย

– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จ.บุรีรัมย์ 39.4 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับเตือนภัย

– ภาคกลาง: กรุงเทพฯ 48.1 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับอันตราย

– ภาคตะวันออก: จ.ชลบุรี 51.4 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับอันตราย

– ภาคใต้: จ.ภูเก็ต 48.3 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับอันตราย

 

ทั้งนี้ ค่าดัชนีความร้อนระดับเฝ้าระวังเตือนภัยผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อน สามารถแบ่งเป็น 4 ระดับ ดังนี้

1. ระดับ “เฝ้าระวัง” ค่าดัชนีความร้อนอยู่ที่ 27.0-32.9 องศาเซลเซียส

ผลกระทบต่อสุขภาพ คือ เมื่อสัมผัสความร้อน และทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายเกิดอาการเบื้องต้น เช่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ผื่นจากความร้อน บวมจากความร้อน ปวดเมื่อยตามร่างกาย นำไปสู่การเกิดตะคริวจากความร้อนได้

2. ระดับ “เตือนภัย” ค่าดัชนีความร้อนอยู่ที่ 33.0-41.9 องศาเซลเซียส

ผลกระทบต่อสุขภาพ คือ เมื่อสัมผัสความร้อน และทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเพลียแดด (Heat exhaustion) และเป็นตะคริวจากความร้อนได้ และอาจส่งผลให้เกิดโรคลมร้อน หรือฮีทสโตรก (Heat stroke)

3. ระดับ “อันตราย” ค่าดัชนีความร้อนอยู่ที่ 42.0-51.9 องศาเซลเซียส

ผลกระทบต่อสุขภาพ คือ เมื่อสัมผัสความร้อน และทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน อาจทำให้เป็นตะคริวจากความร้อน และเกิดโรคเพลียแดดจากความร้อน (Heat exhaustion) และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลมร้อน หรือฮีทสโตรก (Heat stroke) ได้ หากสัมผัสความร้อนอย่างต่อเนื่อง

4. ระดับ “อันตรายมาก” ค่าดัชนีความร้อนมากกว่าหรือเท่ากับ 52 องศาเซลเซียส

ผลกระทบต่อสุขภาพ คือ เมื่อสัมผัสความร้อน และทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานต่อเนื่อง มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดโรคลมร้อน หรือฮีทสโตรก (Heat stroke)

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 มี.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top