นางสาวนมิดา อธิศพงษ์ ผู้อำนวยการกลุ่ม ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เปิดเผยว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/67 เติบโตดีต่อเนื่องทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหาร โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่ อัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) ของโรงแรมในยุโรปและไทยเติบโตสูงขึ้นมากกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 และยังมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง
โดยโรงแรมในยุโรป RevPAR เดือนม.ค. 67 เติบโต 22% เมื่อเทียบกับเดือนม.ค. 66 และเติบโต 25% เมื่อเทียบกับปี 6 2หรือก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่โรงแรมในไทย RevPAR เดือนม.ค. 67 โต 20% เมื่อเทียบกับม.ค. 66 และเติบโต 10% จากปี 62 แม้นักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังเข้ามาในไทยไม่สูงเท่ากับช่วงก่อนโควิด-19 แต่ด้วยความสามารถในการปรับขึ้นอัตราค่าห้องพัก ทำให้ RevPAR เติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งนี้อัตราเข้าพัก (Occupancy rate) อยู่ที่ 80% มากกว่าปี 62 แล้ว อย่างไรก็ตามหากเทียบการเติบโต QoQ อาจลดลงจากปัจจัยฤดูกาล
ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารปรับตัวดีขึ้นจาก การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ในร้าน Dairy Queen, Swensens และ The Pizza Company ที่ปรับตัวดีขึ้น
นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน MINT กล่าวว่าภาพรวมธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกยังดีอยู่ อาทิ ยุโรปที่นอกจากจะมีความต้องการเดินทางเพื่อสันทนาการ การท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน ยังมีการเดินทางเพื่อธุรกิจเพิ่มมากขึ้นด้วย ขณะที่ในไทย ยังเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวต้องการเข้ามาเที่ยว
รวมทั้งภาครัฐมีมาตรการในการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะนโยบายฟรีวีซ่าที่นำร่องในประเทศจีนไปแล้ว คาดว่ารัฐบาลจะดำเนินการกับประเทศอื่น ๆ ต่อเนื่องด้วย ขณะเดียวกันบริษัทก็ปรับธุรกิจให้มีการเติบโตเองด้วย โดยจัดแคมเปฐ โปรโมชั่น รวมทั้งมีความสามารถด้านดิจิทัลที่ทำให้เชื่อมต่อกับลูกค้าและนักท่องเที่ยวให้ดีขึ้น ทำให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการและเกิดความผูกพันธ์กับแบรนด์มากขึ้นด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 67)
Tags: MINT, ท่องเที่ยว, นมิดา อธิศพงษ์, โรงแรม, ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล