VRANDA ท่องเที่ยวคึกคักจัดหนุนธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทโต 15% เชื่อกลุ่มอสังหาฯ โตกว่า 100%

นายภวัฒก์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วีรันดา รีสอร์ท (VRANDA) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในปี 67 จะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แบบเร็วและปัจจัยบวกจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ การขยายตัวของสายการบิน มาตรการผ่อนคลายการเดินทางของชาวต่างชาติและมาตรการฟรีวีซ่า “ไทย-จีน” ที่จะเริ่มวันที่ 1 มีนาคมนี้ จะส่งผลดีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 500,000-1,000,000 คนต่อปี ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยคึกคัก

โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ของกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทในปีนี้ที่ 1,300 ล้านบาท เติบโตประมาณ 15% จากการเตรียมเปิดโรงแรมแห่งใหม่ติดหาดในภูเก็ตและส่วนขยายโครงการรีสอร์ทในสมุยในไตรมาส 4 นี้ ซึ่งทั้งภูเก็ตและสมุยต่างเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างมากในช่วงเวลานี้ โดยเป้ารายได้ของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เติบโตกว่า 100% เมื่อเทียบกับปี 66 จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการในชะอำและภูเก็ตในช่วงเวลาเดียวกัน

บริษัทฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 จะเติบโตหากเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) หลังยุติการรับรู้ผลการขาดทุนจากธุรกิจขนมหวาน “GRAM Pancakes และ PABLO Cheese tart” ที่ดำเนินการผ่านบริษัท พีดีเอส โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทย่อยที่เป็นเจ้าของสัญญา แฟรนไชส์หลักตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/66 ประกอบกับได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัว โดยช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา โรงแรมและรีสอร์ทในเครือวีรันดาได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจองห้องพักเต็ม 100% โดยลูกค้าหลักของวีรันดาเป็นคนไทย 36% ชาวจีน 8% เกาหลีใต้ 7% เยอรมัน 5% ออสเตรเลีย 4% และอื่นๆ 40%

ส่วนผลการดำเนินงานในปี 566 มีรายได้รวม 1,402 ล้านบาท เติบโต 3% โดยกลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากกิจการโรงแรม 1,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีรายได้ 123 ล้านบาท ลดลง 45% เนื่องจากได้ทยอยโอนกรรมสิทธิ์โครงการ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน ไปจำนวนมากแล้ว

ขณะที่มีผลขาดทุนสุทธิ 141 ล้านบาท โดยหลักมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากธุรกิจร้านขนมหวานและได้บันทึกด้อยค่าที่ไม่ใช่เงินสดเพียงครั้งเดียว (One-time Non-cash) ในไตรมาส 4/66 รวมทั้งสิ้น 122 ล้านบาท เพื่อยุติการดำเนินงาน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.พ. 67)

Tags: , , ,
Back to Top