นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า จะลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 27-29 ก.พ. เพื่อดูเรื่องของโอกาส และค้นพบสิ่งที่งดงามและมีคุณค่าที่ซ่อนอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดึงศักยภาพออกมาว่ามีเรื่องใดที่สามารถทำประโยชน์ หรือสร้างรายได้ให้กับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ก็จะทำ รวมถึงจะมีการส่งเสริมการท่องเที่ยว และทำให้ตลาดในท้องถิ่นกว้างขึ้น เพิ่มมูลค่าสินค้าในพื้นที่
นอกจากนี้ ตนจะลงไปดูเรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้ประชาชนเจ้าของพื้นที่รักและภูมิใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ และทำให้ประชาชนนอกพื้นที่รักและผูกพันในดินแดน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย สิ่งสำคัญหากทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว หรือความสงบสุข ก็จะเกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
นอกจากนี้ ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติและศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารและผลิตภัณฑ์ของไทยให้เป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ และเป็นการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว
น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาลไทยของกระทรวงอุตสาหกรรม ประกอบด้วย การแต่งตั้งผู้แทนการค้าไทย (ด้านฮาลาล) การจัดตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ (กอฮช.) และให้นำเรื่องการจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทยและกรอบการดำเนินงานของศูนย์ฯ เสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) พิจารณารวมทั้งให้นำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2567-2571) เสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับประเทศไทย มีมูลค่าส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลในปี 66 (ม.ค.-พ.ย.) จำนวน 216,698 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาหารฮาลาล โดยธรรมชาติ เช่น ข้าว ธัญพืช น้ำตาลทราย ฯลฯ และมีผู้ผลิตอาหารฮาลาลกว่า 15,043 ราย มีร้านอาหารฮาลาลมากกว่า 3,500 ร้าน ซึ่งยังมีโอกาสเพิ่มสัดส่วนการส่งออกอาหารฮาลาลไปยังตลาดที่มีกำลังซื้อสูงได้อีกมาก เช่น ประเทศซาอุดีอาระเบีย และประเทศบรูไน เป็นต้น โดยประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศผู้นำเข้าอาหารฮาลาลสำคัญของโลก
โดยคาดว่าในปี 67 การเติบโตของตลาดอุตสาหกรรมฮาลาลทั้งหมด จะขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 7.5% โดยในส่วนของกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม คาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 7.1%
น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการจัดทำคำของบประมาณเร่งด่วนเพื่อขับเคลื่อนแผนงานดังกล่าวในปี 67 จำนวน 95 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ ในระยะแรกจะเน้นการสร้างการรับรู้ถึงศักยภาพของสินค้าฮาลาลไทย และการขยายตลาดสินค้าฮาลาลไทยไปยังตลาดที่มีกำลังซื้อสูง โดยการจัดทำ MoU ในตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพ เช่น ประเทศซาอุดีอาระเบีย กรอบความร่วมมืออินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) และกรอบความร่วมมือไทย-บรูไน เป็นต้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.พ. 67)
Tags: จังหวัดชายแดนใต้, เศรษฐา ทวีสิน