นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอ็กโซติค ฟู้ด (XO) กล่าวถึงผลการดำเนินงานงวดประจำปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 785.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 130.79% จากปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 340.16 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของยอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น โดยสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อจากลูกค้า ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 2,521.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,066.43 ล้านบาท หรือคิดเป็น 73.31% สาเหตุหลักเนื่องจากการขยายตลาดในทวีปยุโรปและทวีปอเมริกา โดยในช่วงสิ้นปี 2566 สินค้าของบริษัทฯ ได้วางจำหน่ายในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วกว่า 1,500 สาขา จากเดิมช่องทางกระจายสินค้าอยู่ในตลาดดั้งเดิม หรือ Traditional Trade
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการปรับขึ้นราคาขายสินค้าตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 รวมทั้ง การปรับขึ้นราคาขายสินค้า สนับสนุนอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าในปี 2566 อยู่ที่ 46.76% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าเท่ากับ 41.35% สำหรับปริมาณการขายในงวดสิ้นปี 2566 เทียบกับปี 2565 อยู่ที่ 28,301 ตัน และ 17,188 ตัน ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี ในปี 2566 XO มีสัดส่วนรายได้มาจากลูกค้ากลุ่มหลักอยู่ในทวีปยุโรป 63.8% และไฮไลท์จากกลุ่มอเมริกาสัดส่วนเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 22.9% ในด้านการใช้อัตรากำลังการผลิต (Utilization Rate) ทะลุ 135% ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง
สำหรับภาพรวมในปี 2567 ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20% จากปีก่อน พร้อมเดินหน้าขยายตลาดซอสส่งออกในทวีปยุโรปซึ่งเป็นตลาดหลัก ขณะที่ ในสหรัฐอเมริกามีการขยายช่องทางการจำหน่ายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้ง การบุกประเทศที่เป็นโอกาสต่อเนื่อง ปัจจุบัน XO มีแผนการเพิ่มไลน์การผลิตใหม่ 1 ไลน์ ที่โรงงานเดิม ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงปลายปี 2567 ซึ่งทำให้เราสามารถรับออเดอร์และวางแผนได้ โดยเครื่องจักรใหม่สามารถรองรับยอดขายกว่า 1,000 ล้านบาท จากการผลิตกะเดียวโดยไม่ใช้โอที และมีการขอ BOI สำหรับไลน์ดังกล่าวด้วย ขณะที่แผนสร้างโรงงานใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ แหลมฉบัง คาดเริ่มดำเนินการก่อสร้างในช่วงกลางปี 2567 แล้วเสร็จปลายปี 2568
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 67)
Tags: XO, จิตติพร จันทรัช, เอ็กโซติค ฟู้ด