นายสุตกานต์ แน่นหนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต (INETREIT) กล่าวว่า กองทรัสต์ฯ INETREIT เตรียมเข้าลงทุนในโครงการ INET-IDC3 เฟส 2 ซึ่งเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่ไตรมาส 4/65 เน้นให้บริการ Cloud ประเภท Platform as a Service (PaaS) และ Software as a Service (SaaS) ซึ่งจัดเป็นบริการ Cloud ที่สามารถสร้างมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเทียบกับโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 ที่เน้นให้บริการด้าน Co-location และ Cloud ประเภท Infrastructure as a Service (IaaS) เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจาก Server Software และอุปกรณ์ต่างๆ เป็นรุ่นที่ใหม่กว่าโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จึงมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าและสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นได้
ผลการดำเนินการโครงการ INET-IDC3 เฟส 2 ในปี 65 มีรายได้รวม 265.24 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 165.05 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 66 (ม.ค.-ก.ย. 66 ) มีรายได้รวม 261.08 ล้านบาท และ EBITDA 179.56 ล้านบาท
การเข้าลงทุนเพิ่มเติมในศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล INET-IDC3 เฟส 2 จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่กองทรัสต์ในการสร้างรายได้และผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ โดยประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ภายหลังกองทรัสต์เข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 1 อ้างอิงสมมติฐานในการจัดทำงบประมาณการงบกำไรขาดทุนและการจ่ายประโยชน์ตอบแทนตามสถานการณ์สมมติสำหรับงวด 12 เดือน ช่วงเวลาประมาณการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.67 ที่ราว 8% ต่อปี มีมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มเป็น 7.3 พันล้านบาท จากปัจจุบัน 4.7 พันล้านบาท และภายหลังการเพิ่มทุนจะทำให้กองทรัสต์มีสัดส่วนการลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) 58% และลงทุนในกรรมสิทธิ์ (Freehold) 42% และอายุการเช่าคงเหลือเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของกองทรัสต์จากเดิม 22 ปี เป็น 54 ปี
โดย INETREIT จะปล่อยเช่าทรัพย์สินที่กองทรัสต์ฯ จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมแก่ INET เพียงรายเดียวเป็นระยะเวลา 30 ปี และมีข้อตกลงปรับขึ้นค่าเช่าทุกปี ปีละ 1 ครั้ง ที่อัตรา 2% ต่อปี
ปัจจุบันกองทรัสต์ INETREIT มีทรัพย์สินหลัก ได้แก่ โครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จังหวัดสระบุรี โดยเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่าและมีระยะเวลาการเช่าคงเหลือประมาณ 22 ปี (สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 88) และได้ปล่อยเช่าทรัพย์สินดังกล่าวแก่ บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) เพียงรายเดียวและมีข้อตกลงปรับค่าเช่าขึ้นทุกปี ปีละ 1 ครั้ง ที่ 2% ต่อปี โดยนับจากจัดตั้งกองทรัสต์ฯ เมื่อกลางปี 64 ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. (วันจัดตั้งทรัสต์) ถึง 31 ธ.ค. 64 กองทรัสต์มีรายได้รวม 163.94 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 397.57 ล้านบาทในปี 65 ขณะที่งวด 9 เดือนแรกปี 2566 กองทรัสต์ฯ มีรายได้รวม 298.94 ล้านบาท
นายวัลล์ชัย เวชชีวะดำรงค์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) กล่าวว่า INET ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก (Sponsor) และผู้เช่าทรัพย์สินกลับจากกองทรัสต์ฯ เป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร มีประสบการณ์ด้านโทรคมนาคมมายาวนานหลายทศวรรษ และเป็นผู้นำในธุรกิจศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล (Data Center) และบริการคลาวด์ (Cloud) สัญชาติไทย ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย ที่ 12.74% ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 65 จากรายงานบทวิเคราะห์ด้านการเงินการลงทุนโดยบริษัท เมอร์ลินส์ โซลูชั่นส์ อินเตอร์แนชั่นนัล จำกัด
โดย INET วางเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในเทรนด์เศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านการขยายธุรกิจและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง สร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า รองรับศักยภาพการเติบโตในยุคดิจิทัล เพิ่มความประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการทำกำไรของ INET และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นางสาววรายุ อิ่มอโนทัย ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ภายหลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายประเทศเข้าสู่จุดสูงสุดแล้ว และมีแนวโน้มทยอยปรับลดลง ถือเป็นโอกาสดีที่จะลงทุนในกองทรัสต์เพื่อรับผลตอบแทนจากเงินปันผล โดย INETREIT มีจุดเด่น ได้แก่ กองทรัสต์ฯ จะลงทุนในกรรมสิทธิ์ จึงสามารถสร้างรายได้แก่กองทรัสต์โดยไม่มีข้อจำกัดด้านระยะเวลาลงทุน
ทรัพย์สินที่กองทรัสต์ฯเข้าลงทุนเพิ่มเติมมีคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล และเป็นอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าสูงขึ้น อีกทั้งทรัพย์สินของกองทรัสต์ฯ จัดอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูง และกองทรัสต์ฯ มีโอกาสเติบโตจากการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในอนาคตและมีสิทธิในการปฏิเสธก่อน (Right of First Refusal) ในทรัพย์ที่ใช้ดำเนินธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ของ บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย รวมถึงสิทธิในการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม (Right to Invest) ในตู้ Rack เพิ่มเติมภายในโครงการ INET-IDC 3 เฟส 2
นอกจากนี้ INET เป็นผู้เช่าหลักที่มีความเชี่ยวชาญบริหารโครงการและมีประสบการณ์ในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์มานาน และกองทรัสต์ถูกบริหารจัดการโดยทีมผู้บริหารที่มากด้วยประสบการณ์และครอบคลุมธุรกิจ Data Center ขณะที่ความคืบหน้าการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน ล่าสุดแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ (Filing) ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และมีผลใช้บังคับเป็นที่เรียบร้อย
นายฐิติวัชร กรวุฒิ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กรุงศรี ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า กองทรัสต์ INETREIT จะเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 จำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 174,476,000 หน่วย แบ่งเป็นเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเฉพาะกลุ่มที่เป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม ที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์ (Rights Offering) ในวันที่ 23 ก.พ. 67 ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 50% ของจำนวนหน่วยทรัสต์ที่เสนอขายครั้งนี้
การเสนอขายให่ INET และ / หรือ กลุ่มบุคคลเดียวกันของ INET ซึ่งเมื่อรวมกับการจัดสรรตามส่วนที่ 1 แล้วจะมีจำนวนไม่เกิน 25% ของจำนวนหน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายในครั้งนี้ และบุคคลในวงจำกัด และ / หรือ ประชาชนทั่วไปและ/หรือ บุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ จากหน่วยทรัสต์ส่วนที่เหลือจากการเสนอขายในส่วนที่ 1 และ ส่วนที่ 2 โดยกำหนดอัตราส่วนใช้สิทธิ์จองซื้อที่ 1 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 0.5287 หน่วยทรัสต์เพิ่มทุน โดยจะเสนอขายแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล และประชาชนทั่วไปในวันที่ 11-14 มี.ค. 67
ผู้จองซื้อประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลจะต้องชำระเงินจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่ราคาเสนอขายสูงสุดที่ 9 บาท/หน่วย โดยราคาเสนอขายสุดท้ายทางผู้จัดการกองทรัสต์จะประกาศภายหลัง ทั้งนี้ กรณีที่ราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาจองซื้อ จะคืนเงินส่วนต่างแก่ผู้จองซื้อทุกราย และคาดว่าจะนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือนมี.ค. 67
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 67)
Tags: INETREIT, สุตกานต์ แน่นหนา, ไอเน็ต รีท แมเนจเม้นท์