นายโรเบิร์ต โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4/66 โดยบริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีผลกำไรสุทธิ 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีปัจจัยหลักมาจากการขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน ส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปต่อน้ำมันดิบที่ลดลง และการหยุดซ่อมบำรุงหน่วยการผลิตของโรงกลั่น
ราคาน้ำมันที่ลดลงเป็นผลมาจากความขัดแย้งในตะวันออกกลางและทะเลแดง ประกอบกับความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศจีน ส่งผลให้เกิดการขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันในไตรมาสนี้ ค่าการกลั่นตลาดอยู่ที่ 1.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ 8.36 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปต่อน้ำมันดิบที่ลดลงและการหยุดซ่อมบำรุงหน่วยการผลิตในช่วงเดือนตุลาคมถึงต้นพฤศจิกายน
ในปี 66 บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับปี 65 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 222 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับค่าการกลั่นตลาด (ไม่รวมผลกำไร/ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน) อยู่ที่ 4.39 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงจากปี 65 ซึ่งอยู่ที่ 9.64 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
“ปี 66 นับว่าเป็นที่ท้าทายสำหรับ SPRC แต่เรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความน่าเชื่อถือในการผลิต โดยสร้างมูลค่าผ่านการเข้าซื้อธุรกิจการตลาดและน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมทั้งแสวงหาโอกาสเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น ด้วยการใช้ประโยชน์จากความสามารถด้านห่วงโซ่คุณค่าเชิงกลยุทธ์ของเรา” นายโรเบิร์ต โดบริค กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 67)
Tags: SPRC, สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง, หุ้นไทย, โรเบิร์ต โดบริค