หอการค้าฯ หนุนเก็บ “ค่าเหยียบแผ่นดิน” สร้างเม็ดเงิน 8 พันลบ. กระตุ้นภาคท่องเที่ยว

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทย สนับสนุนให้มีการเก็บค่าธรรมเนียมการเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเชื่อว่ารายได้ส่วนนี้ จะสามารถนำมาพัฒนาคุณภาพและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของไทยได้อีกมาก และหากเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมได้ทันทีในไตรมาส 2/67 คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาใช้ขับเคลื่อนภาคท่องเที่ยวในปีนี้ ไม่น้อยกว่า 8,000 ล้านบาท

สำหรับนักท่องเที่ยวไทยเองปีนี้ ยังคงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้เดินทางสูงถึง 14.2 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ถึง 8 หมื่นล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 6% และ 9% ตามลำดับ

ดังนั้น หอการค้าไทย จึงสนับสนุนให้รัฐบาลใช้โอกาสนี้ ในการกระจายนักท่องเที่ยว และรายได้เหล่านี้ไปยังเมืองรองเป้าหมาย โดยอาจสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทาง ที่พัก อาหาร หรือการท่องเที่ยวบางส่วน เพื่อกระตุ้นให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวไปในจังหวัดเมืองรอง เช่นเดียวกับหอการค้าพะเยา ที่ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหน่วยงานอื่นๆ จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งมีกระแสตอบรับดีเกินคาด

ส่วนยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้าประเทศไทย สะสม 49 วัน ทะลุ 5.2 ล้านคนแล้ว โดยมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเป็นอันดับ 1 ถึง 990,000 คน หากยังคงรักษาระดับนี้ต่อไปได้ เชื่อมั่นว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมตลอดทั้งปีนี้ น่าจะไปถึงเป้าหมายที่ 35 ล้านคน รวมถึงเป้านักท่องเที่ยวจีน 8 ล้านคน ได้ตามที่รัฐบาลคาดหวังไว้

นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเฉลี่ยต่อคน โดยปี 66 อยู่ที่ประมาณ 47,000 บาท/คน/ทริป ซึ่งปีนี้นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดหลักของไทยที่อยู่ยาวและใช้จ่ายสูงเริ่มกลับมา โดยช่วงต้นปี นักท่องเที่ยวจากเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ กลับมาอยู่ในกลุ่ม TOP 10 ที่เข้าไทยมากที่สุดเกินกว่า 150,000 คน ผนวกกับการที่รัฐบาลเริ่มขับเคลื่อน Happy Model ร่วมกับภาคเอกชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยยกระดับ Supply Side ได้ในทุกระดับ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ไปถึง 52,000-55,000 บาท/คน/ทริปได้

นายสนั่น กล่าวว่า หอการค้าไทย ขอขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลที่ผลักดันนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้อย่างเหมาะสม ทั้งการยกเว้นการตรวจลงตรา (VISA FREE) และเพิ่มระยะเวลาพำนักให้กับนักท่องเที่ยวในหลายประเทศ อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะรักษากลุ่มเป้าหมายเดิมหรือเจรจากับกลุ่มเป้าหมายใหม่ เช่น ซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น

รวมถึงความพยายามในการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวก และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ส่งผลให้ถึงปัจจุบันมีเส้นทางบินใหม่เพิ่มขึ้น (New Route) ถึง 23 เส้นทาง และมีเที่ยวบินประจำเพิ่มขี้นอีก (New Flight) ไม่น้อยกว่า 50 เที่ยวบิน จาก 32 สายการบิน

นอกจากนี้ การกระตุ้นกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบงาน Event ต่างๆ ก็ช่วยสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการจัดงานเทศกาล Thailand Winter Festival ที่ประกอบด้วยกิจกรรมย่อยอีกจำนวนมากที่กระจายไปในแต่ละพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ประกอบกับการเพิ่มวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ และการขยายผล Happy Model ร่วมกับภาคเอกชนไปสู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จะยิ่งช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งเมืองหลัก-เมืองรอง สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการไทยทั่วพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่าเทศกาลมหาสงกรานต์ปีนี้ จะคึกคักมากเป็นพิเศษอย่างแน่นอน

นายสนั่น กล่าวด้วยว่า การยกระดับคุณภาพ และการรองรับบริการที่เพียงพอของผู้ประกอบการถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งภาคเอกชนพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมิน Carrying Capacity ของแต่ละพื้นที่ และกระจายนักท่องเที่ยวออกไปให้เหมาะสม รวมถึงสนับสนุนเงินให้กับผู้ประกอบการในการพัฒนาคุณภาพ และเพิ่มกำลังการรองรับที่เพียงพอ ซึ่งนอกจากจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแล้ว ยังช่วยยกระดับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวให้สูงขึ้นด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.พ. 67)

Tags: , ,
Back to Top