ตั๋วเครื่องบินแพงเว่อ “สุริยะ” สั่งเรียกสายการบินถกด่วน จ่อชง กบร.หาทางกดเพดานลง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีผู้โดยสารบางรายร้องเรียนว่า ราคาบัตรโดยสารเครื่องบินในปัจจุบันมีราคาแพง โดยเฉพาะในเส้นทางกรุงเทพฯ–ภูเก็ตนั้น กระทรวงคมนาคมได้ได้สั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ไปดำเนินการตรวจสอบและหาแนวทางการแก้ไขทันที เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ และตอบสนองความต้องการของประชาชนในวงกว้างตามนโยบายของรัฐบาล

ปัจจุบัน กพท.ได้กำหนดราคาเพดานเพื่อควบคุมราคาขั้นสูง ทั้งในเส้นทางหลัก และเส้นทางรอง โดยจำแนกเป็นอัตราสำหรับบริการต้นทุนต่ำและบริการเต็มรูปแบบ ซึ่ง กพท. ได้ตรวจสอบการกำหนดราคาบัตรโดยสารภายในประเทศของทุกสายการบินผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายทุกวัน โดยตรวจสอบยืนยันกับสายการบินโดยตรงทุกกรณี และยังไม่พบว่าสายการบินขายราคาบัตรโดยสารสูงกว่าเพดาน

อย่างไรก็ตาม ราคาเพดาน เป็นส่วนของราคาบัตรโดยสารสำหรับการเดินทาง (Air Fare) เท่านั้น ไม่ได้รวมค่าภาษีและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง และไม่รวมการเลือกบริการเพิ่มเติม ซึ่งเป็นไปตามความสมัครใจของผู้โดยสาร เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำหนักสัมภาระ ค่าประกัน ค่าเลือกที่นั่ง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการควบคุมดูแลด้านราคาของ กพท. ยังคงอยู่ในกรอบมาตรฐานราคาเพดานที่กำหนดไว้

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ กพท. อยู่ระหว่างทบทวนเพดานค่าโดยสาร ซึ่งจะทำให้ราคาตั๋วสูงสุดไม่แพงจนเกินไป แม้ว่าจากข้อมูลที่รวบรวมมาจะพบว่าตั๋วเครื่องบินที่แพงเป็นเพียงส่วนน้อย เช่น เที่ยวบินช่วงเทศกาลปีใหม่ เส้นทางดอนเมือง-ภูเก็ต มีสัดส่วนราคาตั๋วสูงกว่า 4,000 บาท เพียง 13.8% เป็นต้น

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของราคาค่าโดยสารนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการภาคท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทย ขณะเดียวกันยังเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายการเดินทางให้กับประชาชนด้วยเช่นกัน เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหา จึงสั่งการให้ กพท. ไปหารือกับสายการบิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยในวันพรุ่งนี้ กพท. ได้เรียกสายการบินที่ให้บริการเส้นทางภายในประเทศทุกรายมาร่วมประชุมหารือและชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจะนำข้อสรุปเสนอคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) พิจารณาอนุมัติก่อนนำไปดำเนินการต่อไป

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน กพท. ได้ดำเนินการปรับยกระดับการสื่อสาร เพื่อเพิ่มการรับรู้ให้กับประชาชนและผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง โดยการเพิ่มทั้งช่องทางและความถี่ของข่าวสารและความรู้ที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ เช่น การแนะนำให้ผู้โดยสารเลือกซื้อบัตรโดยสารล่วงหน้า รวมทั้งเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินในหลายช่องทาง เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อช่วยสร้างความเข้าใจในการเดินทางให้ได้ตั๋วเครื่องบินในราคาที่เหมาะสม เช่น การจองล่วงหน้าซึ่ง, การจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าแบบเปลี่ยนแปลงได้ แม้จะมีราคาสูงกว่าตั๋วที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่จะมีราคาต่ำกว่าตั๋วเครื่องบินที่ซื้อในเวลากระชั้นชิด เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ 2567 ที่กำลังจะถึงนี้ เป็นช่วงที่มีความต้องการการเดินทางสูง กพท. จึงขอแนะนำให้ประชาชนที่วางแผนจะเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาในช่วงดังกล่าว สามารถจองตั๋วโดยสารล่วงหน้า เพื่อให้ได้ราคาที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด ทั้งนี้ หากจองในช่วงใกล้วันเดินทาง ค่าโดยสารอาจปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาดได้ โดย กพท. จะทำการตรวจสอบดูแลราคาค่าตั๋วโดยสารอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนต่อไป

สำหรับข้อมูลของ กพท. ระบุว่า สำหรับเส้นทางกรุงเทพฯ – ภูเก็ต มีสายการบินภายในประเทศให้บริการ 6 สายการบิน รวมวันละ 92 เที่ยวบิน แบ่งเป็น ขาไป 46 เที่ยวบิน และขากลับ 46 เที่ยวบิน ประกอบด้วย 1.บริการเต็มรูปแบบ เพดานต่อเที่ยวอยู่ที่ 9,074 บาท หรือ 13 บาทต่อกิโลเมตร (กม.) ได้แก่ การบินไทย 8 เที่ยวไปและ 8 เที่ยวกลับ , บางกอกแอร์เวย์ส 5 เที่ยวไป 5 เที่ยวกลับ 2.บริการต้นทุนต่ำ มีราคาเพดานเฉลี่ยต่อเที่ยวอยู่ที่ 6,561 บาท หรือ 9.40 บาทต่อ กม. ได้แก่ ไทยแอร์เอเชีย 16 เที่ยวบินไป 16 เที่ยวกลับ, ไทยเวียตเจ็ต 9 เที่ยวไป 9 เที่ยวกลับ, ไทยไลออนแอร์ 5 เที่ยวไป 5 เที่ยวกลับ และนกแอร์ 3 เที่ยวไป 3 เที่ยวกลับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.พ. 67)

Tags: ,
Back to Top