นายพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวถึง 3 ข้อดีในการลงทุนในทองคำ หัวข้อการลงทุนทองคำและสินทรัพย์ทางเลือก อย่างคริปโทเคอร์เรนซี ในเสวนา “The Winner Asset 2024 : ชัยชนะนักลงทุน” ว่า
1. ทองคำ เป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยง (Safe Haven) และสามารถทำกำไรได้ ไม่ว่าจะเกิดสงคราม ภาวะเศรษฐกิจ โดยจากสถิติในอดีตพบเมื่อมีปัญหาภูมิรัฐศาสตร์พบว่า 8 ใน 10 ครั้ง ราทองคำปรับตัวขึ้น มีการทำนิวไฮตลอด หลายปีที่ผ่านมาให้ผลตอบแทน 9-10 % ต่อปี
2. ทองคำ สามารถนำมาใช้ในการถัวเฉลี่ยกับทรัพย์สินอื่นได้
3. ความยืดหยุ่นการถือครอง และเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที มีความคล่องตัวสูงกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น
แนวโน้มราคาทองคำในปี 67 ต้องประเมินหลังจากเดือน พ.ค.ที่คาดว่าจะเห็นความชัดเจนของทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ต้องรอติดตามว่าความ Aggressive ในการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีมากน้อยแค่ไหน ประกอบกับกับภาวะเศรษฐกิจยังไม่มีวิกฤต หรือ สงครามมากระทบ ถือว่าตอนนี้เป็นช่วงที่ราคายังอยู่ในช่วงนิ่ง ๆ สามารถรอจังหวะย่อทยอยเข้าสะสมได้ แต่คาดว่าราคาจะกลับมาโดดเด่นในช่วงไตรมาส 3 หรือ ไตรมาส 4 ของปีนี้
หากประเมินระยะสั้น-กลาง ทองคำจะเข้าช่วง Sideways Down แนวรับที่ 1,977-1,990 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ส่วนแนวรับถัดไป 1,933 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ส่วนแนวรับถัดไป 1,850 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และ แนวรับสุดท้าย 1,810 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
สอดคล้องกับ นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการฝ่ายบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือ MTS Gold แม่ทองสุก ประเมินว่าราคาทองคำน่าจะเริ่มปรับตัวขึ้นหลังไตรมาส 3 หรือ 4 ของปีนี้ โดยคาดว่าปี 67 น่าจะจบราคาที่ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
โดยปีที่ผ่านมาราคาทองคำถือว่าอยู่ในระดับที่แย่ที่สุด เนื่องจากสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 5% ต่อปี แต่กลับมีปัจจัยเรื่องของสถานการณ์ธนาคาร SVB ล้มในสหรัฐฯ รวมถึงสงครามในอิสราเอล ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมามากในช่วงเดือน ต.ค.67 ขึ้นจาก 1,800 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ มาแตะ 2,009 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ภายในระยะเวลา 7 วัน แต่หลังจากนั้นเมื่อเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อทำให้ราคาทองปรับตัวลงมาอีก
ล่าสุดในช่วง ม.ค.-ก.พ. 67 กองทุนทองคำ SPDR ขายทองคำรวม 40 ตัน ส่งผลให้เหลือการถือครองทองคำต่ำสุดในรอบ 10 ปี โดยหันไปลงทุนในพันธบัตร หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลขึ้นไปตามดอกเบี้ยที่สูง
“ปีที่แล้ว (2566) ราคาทองคำโลกให้ผลตอบแทน 14% ทองคำไทยให้ผลตอบแทน 11% ผมมองว่าตอนนี้เป็นโอกาสของทุกคนที่จะเข้าไปลงทุนทองคำในช่วงนี้ ฉะนั้น อย่างแย่ที่สุดปี 67 คาดว่าจะได้ผลตอบแทน 10% ปีนี้ราคาทองคำน่าจะจบที่ประมาณ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์” นพ. กฤชรัตน์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.พ. 67)
Tags: MTS Gold, YLG, กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ, ทองคำ, พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์, ราคาทอง, วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล, แม่ทองสุก