นายสัญชัย ปอปลี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวหัวข้อการลงทุนทองคำและสินทรัพย์ทางเลือก อย่างคริปโทเคอร์เรนซี ในเสวนา “The Winner Asset 2024 : ชัยชนะนักลงทุน”ว่า ปัจจุบันราคาบิทคอยน์ 1 เหรียญ สูงขึ้นมาอยู่ที่ราว 51,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจัยบวกของกองทุน ETF Bitcoin ทำให้มีวอลุ่มจากนักลงทุนสถาบันเพิ่มเข้ามาในตลาดคริปโทฯ และปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ที่คาดว่าจะเกิดทุก 4 ปี ทำให้คาดว่าปี 67 ราคาบิทคอยน์จะแตะ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรืออาจพุ่งสูงถึง 120,000-150,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงสิ้นปีนี้ แต่ก็ยังต้องติดตามปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย
นายศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ Founder Thai Bitcast & Bispace กล่าวถึง 3 ข้อดีสำหรับบิทคอยน์ ว่า
1. Digital Gold หมายถึง บิทคอยน์เปรียบเสมือนทองคำในโลกดิจิทัล มีคุณสมบัติ Peer to peer สามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้อื่นได้โดยตรง และสามารถซื้อหน่วยย่อยได้
2. Open System หมายถึง ระบบ Blockchain ที่ใช้ในการซื้อขายบิทคอยน์เป็นระบบเปิด ทำหน้าที่ในการเก็บข้อมูลผ่านโหนด (Node) ในระบบ โดย Stakeholder สามารถตรวจสอบได้ มีความโปร่งใส เนื่องจากทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าของ
3. Generation Shifted หมายถึง การเปลี่ยนผ่านทรัพย์สินจากรุ่นเก่าไปยังรุ่นใหม่ คริปโท จะกลายมาเป็นทรัพย์สินทางเลือกที่คนรุ่นใหม่เชื่อถือมากยิ่งขึ้น แม้ปัจจุบันการเทรดคริปโทจะมีเพียง 3% ของปริมาณการเทรดทองคำ แต่ในคาดว่าคริปโทฯ จะมีสัดส่วนในการสะสมความมั่งคั่งของคนรุ่นใหม่มากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.พ. 67)
Tags: bitcoin, bitcoin halving, Cryptocurrency, คริปโตมายด์, คริปโทเคอร์เรนซี, บิตคอยน์, บิทคอยน์, สัญชัย ปอปลี