มูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) แซงหน้าบริษัทอะเมซอนแล้วในขณะนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของชิปที่ใช้ในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ล้ำสมัย และยังบ่งชี้ว่านักลงทุนต้องการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทต่าง ๆ ที่ผลิตชิปดังกล่าว
ราคาหุ้นอินวิเดียปิดตลาดที่ระดับ 721.28 ดอลลาร์ในวันอังคาร (13 ก.พ.) และมีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 1.78 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับมาร์เก็ตแคปของบริษัทอะเมซอนซึ่งอยู่ที่ 1.75 ล้านล้านดอลลาร์
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 ก.พ.) มาร์เก็ตแคปของอินวิเดียแซงหน้าอะเมซอนในช่วงเวลาสั้น ๆ ของการซื้อขายระหว่างวันที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก และล่าสุดมาร์เก็ตแคปของอินวิเดียสามารถแซงหน้าอะเมซอนหลังตลาดปิดทำการได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2545
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ผลิตภัณฑ์หลักของอินวิเดียในปี 2545 คือการ์ดจอ (GPU) สำหรับพีซีที่ใช้เล่นเกม กระทั่งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นอินวิเดียพุ่งขึ้นแข็งแกร่งกว่า 246% โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ชิป AI สำหรับการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งทำให้อินวิเดียกวาดรายได้จากชิปดังกล่าวในราคาชิ้นละ 20,000 ดอลลาร์ ขณะที่บริษัทอื่น ๆ เช่นไมโครซอฟท์, โอเพนเอไอ และเมตา แพลตฟอร์มส์ ต่างก็ต้องการชิป AI จำนวนหลายหมื่นชิ้นเพื่อนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ของบริษัท เช่น แชตบอต ChatGPT และฟีเจอร์โคไพลอต (Copilot) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ AI
อย่างไรก็ดี ธุรกิจของอะเมซอนไม่ได้แผ่วลงแต่อย่างใด โดยเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา อะเมซอนเปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 4/2566 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการควบคุมต้นทุนหลังจากบริษัทเลิกจ้างพนักงานจำนวน 27,000 คน
ทั้งนี้ อินวิเดียจะรายงานผลประกอบการรายไตรมาสในวันที่ 21 ก.พ.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดขายรายปีของอินวิเดียจะขยายตัวแข็งแกร่งถึง 118% สู่ระดับ 5.904 หมื่นล้านดอลลาร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.พ. 67)
Tags: AI, Nvidia, ปัญญาประดิษฐ์, มาร์เก็ตแคป, อะเมซอน, อินวิเดีย