ตลาดหุ้นไทย ลงแล้ว ลงอีก จะลงต่อไปถึงไหน? จะมีโอกาสฟื้นตัวได้เมื่อไหร่?
มาไขข้อข้องใจกับ นักวิเคราะห์สุดเก๋าอย่าง พี่กวี หรือ นายกวี ชูกิจเกษม Head of Research and Content บล.พาย ระบุชัด ปี 67 ตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาลง แต่จะเป็นขาลงรอบสุดท้าย คาดว่าจะเห็นจุดต่ำสุดในช่วงครึ่งปีแรก จากนั้นตลาดหุ้นไทยจะกลับมาเป็นขาขึ้นในปี 68 หรืออย่างเร็วอาจจะได้เห็นในไตรมาส 4/67
ปี 68 ประเมินกำไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทจดทะเบียนไทยที่ 100 บาท/หุ้น และมองว่าดัชนี SET อาจจะไปสุดที่ 1,700 จุด P/E อยู่ที่ราว 17 เท่า
ขณะที่ช่วงดัชนี SET ช่วง 1,200-1,400 จุด เป็นจุดที่น่าสนใจเข้าลงทุนได้ พร้อมให้ 5 โพยหุ้นเด็ดที่มีติดพอร์ตไว้ไม่เสียหาย
– AOT ราคาพื้นฐาน 74 บาท ราคาเริ่มฟื้นตัวตอบรับคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยปีนี้เพิ่มเป็น 35 ล้านคน และปีหน้าจะกลับมา 40 ล้านคนเท่ากับช่วงก่อนโควิด
– CPALL ราคาพื้นฐาน 72 บาท หลังจากราคาถูกกดันจากต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้นจากหนี้ที่เกิดจากการเข้าซื้อโลตัสและแมคโคร แต่มองว่าเหมาะสำหรับถือลงทุนระยะกลาง-ยาว
– BBL ราคาพื้นฐาน 192 บาท จุดเด่น คือ สินเชื่อรายใหญ่ในกลุ่มภาคเอกชนยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มโครงการการลงทุนขนาดใหญ่จะมีมากขึ้น ขณะที่ Dividend yield น่าสนใจเกือบ 6%
– BDMS ราคาพื้นฐาน 38 บาท กลุ่มโรงพยาบาลยังเห็นการเติบโตไปกับสังคมผู้สูงวัย และคนไข้จากต่างประเทศกลับเข้ามาพร้อมกับตัวเลขนักท่องเที่ยว
– WHA กำลังทบทวนราคาพื้นฐาน รับประโยชน์จากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในไทยที่จะมีซัพพลายเชนเข้ามามากขึ้น ส่งผลดีต่ออัตราการเช่าโรงงาน หรือเข้ามาซื้อที่ดินเพิ่มมากขึ้น หรือ BGRIM ราคาพื้นฐาน 40 บาท เป็นหุ้นที่รับกระแส Green Energy และมองว่ากำไรปีนี้จะกลับมาฟื้นตัว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.พ. 67)
Tags: WealthMePlease, กวี ชูกิจเกษม, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย