นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) กล่าวว่า จากผลกระทบของอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มิจฉาชีพใช้วิธีการต่าง ๆ ในการหลอกลวงประชาชน ทั้งการใช้โทรศัพท์หลอกให้โอนเงิน หรือการส่ง sms แนบลิงก์ เพื่อดูดข้อมูลส่วนบุคคล
กสทช. จึงได้ออกประกาศ กสทช. เรื่อง การยืนยันตัวตนและข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ กำหนดให้ผู้ถือครองซิมการ์ดตั้งแต่ 6 เบอร์ขึ้นไป ต้องยืนยันตัวตนกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ เป็นวันสุดท้ายของการยืนยันตัวตนของผู้ที่ถือครองซิมการ์ดตั้งแต่ 101 เลขหมายขึ้นไป หากไม่ยืนยันตัวตนภายในวันที่กำหนด หมายเลขจะถูกระงับบริการ
สำหรับผู้ที่ถือครองซิมการ์ด ตั้งแต่ 6-100 เลขหมาย ยังสามารถยืนยันตัวตนได้ถึงวันที่ 13 กรกฎาคม 2567
“สำนักงาน กสทช. ตระหนักดีว่า มาตรการดังกล่าวเป็นการเพิ่มขั้นตอนแก่ผู้ใช้บริการทั่วไปที่ใช้งานปกติ แต่เพื่อเป็นขั้นตอนในการตรวจสอบ และลดโอกาสของมิจฉาชีพในการนำซิมการ์ดไปใช้ในการกระทำผิดหรือผูกกับบัญชีม้า ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะทำให้จำนวนหมายเลขที่ไม่ได้ถูกใช้งานจริงลดลง และเมื่อมีคดีเกิดขึ้นเจ้าหน้าที่สามารถขยายผลจากหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ลงทะเบียน รวมถึงหมายเลขโทรศัพท์ที่ผูกกับบัญชีม้า เพื่อสืบไปถึงมิจฉาชีพได้ต่อไป ขอฝากให้ผู้ที่ถือครองซิมการ์ดที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตน ไปยืนยันตัวตนตามมาตรการดังกล่าวกับผู้ใช้บริการโทรศัพท์ตามช่องทางต่าง ๆ ภายในเวลาที่กำหนดด้วย เพื่อป้องกัน และจัดการปัญหามิจฉาชีพ” ประธาน กสทช. กล่าว
สำหรับรายละเอียดการยืนยันตัวตน ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 ไม่รวมกลุ่มทรู และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด(มหาชน) หรือ NT มีผู้ถือครองตั้งแต่ 6-100 เลขหมาย ยืนยันแล้ว 317,786 เลขหมาย จากเข้าข่าย 3,848,378 เลขหมาย และมีผู้ถือครองตั้งแต่ 101 เลขหมายขึ้นไป ยืนยันแล้ว 1,662,441 เลขหมาย จากเข้าข่าย 7,110,513 เลขหมาย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.พ. 67)
Tags: กสทช., ซิมการ์ด, มิจฉาชีพ, สรณ บุญใบชัยพฤกษ์, อาชญากรรมทางเทคโนโลยี, โทรศัพท์เคลื่อนที่