นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ชี้แจงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล และ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.พรรคก้าวไกล ที่ระบุว่ารัฐบาลไม่มีแผนสำรอง หากโครงการแจกเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งเป็นความเสี่ยง เปรียบเสมือนเอาไข่ไปรวมในตะกร้าเดียวกันนั้น นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าทุกคนทราบดีว่ารัฐบาลมีนโยบายหลายด้าน ทั้งเรื่องกระตุ้นการท่องเที่ยว การเซ็นสัญญาเขตการค้าเสรี (FTA) ที่จะเพิ่มมากขึ้น หรือการลงทุนข้ามชาติ
แต่หากฝ่ายค้านมีข้อสงสัย หรือมีข้อเสนอแนะ รัฐบาลก็พร้อมรับฟัง และจะมีการแถลงข่าวให้ทราบไปเป็นระยะๆ เพื่อชี้แจงให้เกิดความกระจ่าง และยอมรับว่าที่ผ่านมา อาจจะเป็นความบกพร่องของรัฐบาล ที่ชี้แจงรายละเอียดน้อยไป
“ทุกคนทราบอยู่แล้ว ว่าจะต้องใช้เวลาในการรับฟังความคิดเห็น เพราะอยู่ในสังคมที่มีความเห็นต่าง จึงต้องทำให้ทุกฝ่ายสบายใจมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ เมื่อพยายามรับฟังแล้ว ก็ต้องแก้ปัญหาด้วย” นายกรัฐมนตรี ระบุ
ส่วนกรณีที่นายพิธา ออกมาระบุว่า รัฐบาลไม่มีแผนสำรองนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลมีหลายแผนงาน เพียงแต่ยังสื่อสารไม่มากพอ และขอบคุณสำหรับคำเตือนและคำแนะนำ พร้อมให้ความมั่นใจกับประชาชนว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการ และมั่นใจว่าประชาชนจะเชื่อมั่นว่ารัฐบาลได้ทำอย่างเต็มที่ เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่ใช่เฉพาะเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น แต่ยังมีเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ยกระดับสาธารณสุข รวมถึงการส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรมที่ใช้ไฮเทคระยะยาว หรือยกระดับการศึกษา รวมถึงการยกระดับพาสปอร์ตไทยให้มีศักดิ์ศรีมากยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้รัฐบาลก็พยายามทำในเรื่องของวีซ่าฟรี และวีซ่าเชงเกน โดยการประชุมในวันที่ 15 ก.พ.นี้ จะให้ทุกฝ่ายชี้แจงความคืบหน้าในทุกด้าน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.พ. 67)
Tags: ดิจิทัลวอลเล็ต, นายกรัฐมนตรี, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, เศรษฐา ทวีสิน