สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (8 ก.พ.) นายฟรานซิสโก ทิว ลอว์เรล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่าอุปทานข้าวในฟิลิปปินส์มีปริมาณเพียงพอในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.) จึงทำให้ราคาข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของประเทศคงที่
นายลอว์เรลกล่าวว่า หลังจากนั้นราคาข้าวอาจเพิ่มขึ้นจนถึงเดือนก.ย. เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญที่มีต่ออุปทานข้าวทั่วโลก และความต้องการธัญพืชที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ราคาจำหน่ายระหว่างประเทศยังอยู่ในระดับสูง
นายลอว์เรลเสริมว่า สิ่งที่จำเป็นต้องป้องกันในขณะนี้คือผู้แสวงผลกำไรที่อาจพยายามใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ ด้วยการใช้ปรากฎการณ์เอลนีโญเป็นข้ออ้างในการกักตุนข้าว เพื่อโก่งราคาจำหน่ายในประเทศให้พุ่งสูงอย่างไม่สมเหตุสมผล
กระทรวงเกษตรของสหรัฐเปิดเผยว่า ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีประชากรราว 110 ล้านคน ขึ้นแท่นผู้นำเข้าข้าวอันดับต้น ๆ ของโลก และคาดว่าจะนำเข้าข้าว 3.8 ล้านเมตริกตันในปี 2567
ฟิลิปปินส์ได้ลงนามข้อตกลงอุปทานข้าวระยะ 5 ปีกับเวียดนามเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งรับรองการจัดสรรข้าว 1.5-2 ล้านเมตริกตันต่อปี ขณะที่อินเดียก็ให้คำมั่นว่าจะส่งออกข้าวให้กับฟิลิปปินส์เพิ่มเติม
สำนักงานสถิติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ระบุว่า ข้าวเป็นความเสี่ยงที่สำคัญในดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งใช้วัดอัตราเงินเฟ้อ โดยอัตราเงินเฟ้อสำหรับราคาข้าวเพิ่มขึ้นจาก 19.6% ในเดือนธ.ค. 2566 สู่ระดับ 22.6% ในเดือนม.ค. 2567
นายเดนนิส มาปา หัวหน้าสำนักงานฯ กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้ออาจลดลงหากราคาข้าวไม่เพิ่มขึ้นในระดับตัวเลขสองหลักเมื่อเทียบกับปีก่อน เมื่อพิจารณาจากความสำคัญของราคาข้าวในกลุ่มสินค้าและบริการที่กำหนด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.พ. 67)
Tags: XINHUA, ซินหัว, ฟิลิปปินส์, ราคาข้าว