นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เปิดเผยถึงแผนการขยายธุรกิจในปี 67 ว่า บริษัทเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจการลงทุนผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนจากการต่อยอดธุรกิจทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงมองหาโปรเจกต์การลงทุนใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า
WHAUP ตั้งเป้ารายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติรวม 5 ปี (67-71) ที่ 30,000 ล้านบาท โดยตั้งงบลงทุนรวม 21,200 ล้านบาท รักษาอัตรากำไร EBITDA margin ไม่น้อยกว่า 50% ผ่านแผนยุทธศาสตร์ทางธุรกิจดังนี้
-
ธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) ในปี 66 ปริมาณยอดจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำในประเทศไทยรวม 121 ล้าน ลบ.ม. เติบโต 4% มาจากยอดขายน้ำดิบ 32 ล้าน ลบ.ม. และปริมาณขายผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม 6 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ปริมาณยอดขายและบริหารจัดการน้ำในเวียดนาม อยู่ที่ 34 ล้าน ลบ.ม.เติบโต 18%
สำหรับปี 67 บริษัทมุ่งเน้นการขยายการให้บริการและเพิ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชันมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม โดยตั้งเป้ายอดทั้งหมด 178 ล้าน ลบ.ม. แบ่งเป็นใน 142 ล้าน ลบ.ม. และเวียดนาม 36 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นอัตราเติบโตกว่า 14% พร้อมทั้งเดินหน้าพัฒนา Smart Water Platform ด้วยการนำ AI เข้ามาประยุกต์ใช้ และมองหาโอกาสขยายธุรกิจใหม่ๆ อาทิ โซลูชันด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการโรงผลิตน้ำและโรงบำบัดน้ำเสียต่างๆ ที่จะเริ่มทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มเติมในปีนี้ อาทิ โครงการในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล เอสเตท ระยอง (WHA IER) คาดว่าจะ COD ไตรมาส 2/67 และโครงการส่วนขยายในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 (WHA Rayong 36) คาด COD ไตรมาส 4/67 รวมกำลังการผลิตกว่า 8.8 ล้าน ลบ.ม./ปี และ บริษัทยังมองหาแหล่งน้ำดิบทดแทนเพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านการจัดหาน้ำและรองรับการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าในนิคมฯ
-
ธุรกิจพลังงาน บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ในปี 66 เซ็นสัญญาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) กับลูกค้าอุตสาหกรรม (Private PPA) เพิ่ม 42 สัญญา หรือเท่ากับ 50 เมกะวัตต์ และยังได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้สิทธิพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) เฟส 1 จำนวน 5 โครงการ กำลังผลิตตามสัดส่วนหุ้น 125.4 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 66 บริษัทมี PPA จากโรงไฟฟ้าทุกประเภท 858 เมกะวัตต์
สำหรับปี 67 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมที่เซ็นสัญญาแล้ว 1,000 เมกะวัตต์ เติบโตกว่า 17% จากปีก่อน ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 453 เมกะวัตต์ โดยเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ Private PPA จำนวน 283 เมกะวัตต์
บริษัทยังจะเดินเกมรุกพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันพลังงาน อาทิ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า แพลตฟอร์มการซื้อขายพลังงานไฟฟ้า (Peer-to-Peer Energy Trading) และการซื้อขายใบรับรองเครดิตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (I-REC) รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ลงทุนธุรกิจ New S-Curve เช่น ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System: BESS) รวมทั้งการทำดีล M&A คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีนี้
“WHAUP ยังคงเดินหน้าแสวงหาโอกาสในการลงทุนธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงานในรูปแบบต่างๆทั้งในและต่างประเทศ เพื่อต่อยอดการเติบโตและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยเน้นการใช้นวัตกรรมโซลูชันต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างยั่งยืน” นายสมเกียรติ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.พ. 67)
Tags: WHAUP, ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์, สมเกียรติ เมสันธสุวรรณ, หุ้นไทย