นายรานิล วิกรมสิงเห ประธานาธิบดีศรีลังกา เปิดเผยในวันนี้ (7 ก.พ.) ว่า ศรีลังกาจะดำเนินการตามแผนการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ภายใน 6 เดือนแรกของปี 2567 โดยนายวิกรมสิงเหมั่นใจว่าศรีลังกากำลังฟื้นตัวจากวิกฤตการเงินที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
นายวิกรมสิงเหกล่าวว่า ศรีลังกาตั้งเป้าว่าจะผลักดันตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ให้ขยายตัวได้มากถึง 3% ในปีนี้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นายวิกรมสิงเห ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีศรีลังกาในช่วงกลางปี 2565 ท่ามกลางภาวะวิฤตการเงินที่เลวร้ายที่สุด เนื่องจากทุนสำรองเงินตราต่างประเทศลดน้อยลง
ด้านธนาคารโลกประเมินว่าเศรษฐกิจของศรีลังกาจะหดตัว 3.8% ในปี 2566 แต่คาดว่าจะขยายตัว 1.7% ในปี 2567 ในขณะที่ธนาคารกลางศรีลังกามีมุมมองที่ดีกว่า โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในประเทศจะเติบโต 3% ในปีนี้
“เศรษฐกิจของเราทรุดตัวลงอย่างรุนแรง ราวกับอุกกาบาตตก แต่เราก็ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน…เรากำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวแบบรูปตัววี (V-shaped recovery)” นายวิกรมสิงเห กล่าวในการเปิดประชุมรัฐสภา
“ตอนนี้ เราต้องเดินบนเส้นทางนี้ต่อไป ซึ่งมันจะไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่มีวิธีการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น” นายวิกรมสิงเหกล่าว พร้อมเสริมว่าหนี้โดยรวมของศรีลังกา ณ สิ้นเดือนก.ย. 2566 อยู่ที่ 9.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.พ. 67)
Tags: รานิล วิกรมสิงเห, ศรีลังกา, เศรษฐกิจศรีลังกา