อาร์เอซี (RAC) ซึ่งเป็นองค์กรที่ติดตามความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมยานยนต์ออสเตรเลียเปิดเผยรายงานล่าสุดว่า ปั๊มน้ำมันซึ่งตั้งอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วอังกฤษได้กำหนดราคาน้ำมันแพงกว่าปกติประมาณ 14 เพนนีต่อลิตร
RAC ระบุว่า น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วที่มีราคาแพงที่สุดที่จำหน่ายโดยซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ 4 แห่ง ได้แก่แอสด้า (Asda), เทสโก้ (Tesco Plc), มอร์ริสันส์ (Morrisons) และเจ เซนต์สเบอรีส์ (J Sainsbury Plc) ในช่วงปลายเดือนม.ค. โดยน้ำมันที่จำหน่ายโดยมอร์ริสันส์ในเมืองเอ็กซิเตอร์และเมืองอิปสวิชกำหนดราคาไว้ที่ 145.9 เพนนีต่อลิตร ในขณะที่ราคาถูกที่สุดจำหน่ายโดยเซนส์เบอรีที่เมืองอ๊อกฟอร์ดและเมืองนิวพอร์ตที่ระดับ 131.9 เพนนี
นายไซมอน วิลเลียมส์ โฆษกด้านเชื้อเพลิงของ RAC กล่าวว่า “ข้อมูลผู้ค้าปลีกที่มอบให้กับหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบด้านการแข่งขันและตลาดของอังกฤษ (CMA) ด้วยความสมัครใจนั้น ได้ให้ความกระจ่างครั้งใหม่เกี่ยวกับราคาน้ำมันที่จำหน่ายในปั๊ม ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องที่ราคาน้ำมันเบนซินหรือดีเซลชนิดเดียวกันมีความผันผวนได้มากถึง 14 เพนนีต่อลิตร โดยขึ้นอยู่กับว่าคนขับรถยนต์เติมน้ำมันในสถานที่ใด”
ก่อนหน้านี้ CMA ระบุว่า ผู้บริโภคจ่ายเงินเพิ่มขึ้นราว 900 ล้านปอนด์ (1.14 พันล้านดอลลาร์) เพื่อซื้อน้ำมันเบนซินจากปั๊มที่ดำเนินการโดยซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ของอังกฤษในปี 2565 เนื่องจากการแข่งขันที่ซบเซาลง
นอกจากนี้ การวิเคราะห์ของ RAC พบว่า ราคาน้ำมันดีเซลก็มีความคลาดเคลื่อนในลักษณะเดียวกัน โดยราคาน้ำมันดีเซลที่ปั๊มของเซนต์สเบอรีส์มีราคาอยู่ที่ 139.9 เพนนีต่อลิตรในอ๊อกฟอร์ดและนิวพอร์ต แต่ในบาธกลับมีราคาอยู่ที่ 153.9 เพนนี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยของอังกฤษมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วงสิ้นเดือนม.ค. โดยน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วมีราคาอยู่ที่ 140.44 เพนนี และดีเซลอยู่ที่ 148.42 เพนนี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.พ. 67)
Tags: ซูเปอร์มาร์เก็ต, ปั๊มน้ำมัน, ราคาน้ำมัน, อังกฤษ