นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) เปิดตัว “กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี Complex Structured Return 1YE ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย” (MDSHARC1YE) เป็นกองทุนรวมซึ่งมีกลยุทธ์สำหรับผู้ลงทุนที่คาดหวังอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ 0.25% ต่อปี พร้อมเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง จากการลงทุนในสัญญาออปชั่นหรือวอร์แรนท์ที่อ้างอิงการเปลี่ยนแปลงของราคากองทุน SPDR S&P500 ETF Trust (SPY) ทั้งขาขึ้นและลงแบบ Dual Shark Fin โดยเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งเดียว (IPO) ตั้งแต่วันที่ 6-16 กุมภาพันธ์ 2567 เงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท
กองทุน MDSHARC1YE เป็นกองทุนรวมผสม (ระดับความเสี่ยงกองทุน 5) อายุโครงการ 1 ปี มีนโยบายการลงทุนแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและ/หรือเอกชนและ/หรือเงินฝากทั้งในและ/หรือต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ประมาณ 97.50 – 99.00% ของ NAV ทั้งนี้ กองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ และ/หรือเงินฝากต่างประเทศทั้งจำนวน
ส่วนที่ 2 ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ประเภทสัญญาออปชั่นหรือวอร์แรนท์ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับกองทุน SPDR S&P500 ETF Trust (SPY) ซึ่งสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับกองทุน จากการเปลี่ยนแปลงของราคา SPDR S&P500 ETF Trust (SPY) ทั้งขาขึ้นและลง (ในกรอบที่กำหนดไว้ในสัญญา) โดยเงินลงทุนส่วนนี้กองทุนจะลงทุนประมาณ 1.00 – 2.50% ของ NAV และจะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการลงทุนในสัญญาออปชั่นหรือวอร์แรนท์
ผลตอบแทนของกองทุน MDSHARC1YE ได้กำหนดเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทน ณ วันครบกำหนดอายุโครงการ แบ่งเป็น 4 กรณี ดังนี้ กรณีที่ 1 เมื่อราคาสินทรัพย์อ้างอิง ณ วันทำการใดวันทำการหนึ่งที่อยู่ในช่วงระหว่างอายุสัญญา หรือ ณ วันพิจารณาสินทรัพย์อ้างอิง ปรับลดลงมากกว่า -20% หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า +20% เมื่อเทียบกับวันเริ่มต้นสัญญา ถือว่า Knock Out ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน บวกกับผลตอบแทนจากตราสารหนี้และ/หรือเงินฝาก 0.25%
กรณีที่ 2 เมื่อราคาสินทรัพย์อ้างอิง ณ วันพิจารณาปรับลดลงมากกว่า -5% แต่ไม่เกิน -20% เมื่อเทียบกับวันเริ่มต้นสัญญา ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน บวกกับผลตอบแทนจากตราสารหนี้และ/หรือเงินฝาก 0.25% บวกกับผลตอบแทนจากสัญญาออปชั่นหรือวอร์แรนท์
กรณีที่ 3 เมื่อราคาสินทรัพย์อ้างอิง ณ วันพิจารณาปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า +5% แต่ไม่เกิน +20% เมื่อเทียบกับวันเริ่มต้นสัญญา ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน บวกกับผลตอบแทนจากตราสารหนี้และ/หรือเงินฝาก 0.25% บวกกับผลตอบแทนจากสัญญาออปชั่นหรือวอร์แรนท์
กรณีที่ 4 เมื่อราคาสินทรัพย์อ้างอิง ณ วันพิจารณาอยู่ในกรอบ โดยลดลงไม่เกิน -5% หรือเพิ่มขึ้นไม่เกิน +5% เมื่อเทียบกับวันเริ่มต้นสัญญา ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน บวกกับผลตอบแทนจากตราสารหนี้และ/หรือเงินฝาก 0.25% ซึ่งผลตอบแทนทั้ง 4 กรณียังไม่ได้รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน
“จุดเด่นของกองทุน MDSHARC1YE ซึ่งมีการลงทุนผสมผสาน 2 สินทรัพย์ ระหว่างตราสารหนี้หรือหุ้นกู้ และตราสารอนุพันธ์ ประเภทออปชั่น โดยผลรวมของสองสินทรัพย์สามารถคาดหวังอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนขั้นต่ำ 0.25% ต่อปี ขณะเดียวกันสร้างโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มเติมจากออปชั่นไม่ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะขึ้นหรือลงในกรอบที่กำหนดไว้ในสัญญา เมื่อสิ้นสุดโครงการ” นายธนโชติ กล่าว
สำหรับมุมมองภาพรวมตลาดต่างประเทศในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 นี้ บลจ.เอ็มเอฟซี มีมุมมองว่าตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหุ้นหลักของโลกมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้สิ้นสุดลงแล้วและเศรษฐกิจจะเป็นภาพของ Soft Landing อัตราเงินเฟ้อชะลอลง ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนอาจยังกังวลกับความผันผวนของตลาดจากปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุน บลจ.เอ็มเอฟซี จึงนำเสนอกองทุน MDSHARC1YE เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งในการลงทุน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.พ. 67)
Tags: MFC, ธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์, เอ็มเอฟซี