นายเจนเซน หวง ซีอีโอของอินวิเดีย (Nvidia) เปิดเผยว่า ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ต่างมีเป้าหมายที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในประเทศของตนเอง และใช้งานภายในประเทศ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้ผลิตภัณฑ์ของอินวิเดียเป็นที่ต้องการมากขึ้น
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) นายหวงกล่าวว่า ประเทศต่าง ๆ รวมถึงอินเดีย ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และแคนาดากำลังหารือถึงความสำคัญของการลงทุนในศักยภาพของเอไอภายในขอบเขตประเทศของตนเอง โดยไม่ขึ้นกับอิทธิพลจากภายนอก ซึ่งประเทศเหล่านี้เชื่อว่าข้อมูลของตนซึ่งเปรียบเสมือนทรัพยากรธรรมชาติ ควรได้รับการประมวลผลและนำไปใช้ภายในขอบเขตของตนเอง และการยอมรับในศักยภาพเอไอประเภทนี้ก็กำลังเป็นกระแสไปทั่วโลก
นายหวงได้ออกมากล่าวถึงประเด็นนี้มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้วว่าประเทศต่าง ๆ และบรรดาบริษัทของประเทศเหล่านั้นมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลอันมีค่าและข้อมูลเชิงลึกเอาไว้ในขอบเขตของตนเอง โดยยุทธศาสตร์ระดับชาติต่อการเติบโตของเอไอมีแนวโน้มว่าจะนำไปสู่การสร้างศูนย์ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ซึ่งศูนย์เหล่านี้จำเป็นต้องพึ่งพาความเชี่ยวชาญและฮาร์ดแวร์ของอินวิเดีย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อินวิเดีย ซึ่งเป็นบริษัทชิปที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 2 เท่าในปีงบการเงินนี้ โดยได้แรงหนุนจากการลงทุนในเอไอโดยลูกค้ารายใหญ่ต่าง ๆ เช่น ไมโครซอฟท์, เมตา, อะเมซอน, และอัลฟาเบท และในตอนนี้ นายหวงตั้งเป้าที่จะขยายฐานลูกค้าของบริษัท ด้วยการกระตุ้นให้องค์กรและหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นของตนเอง
“ตลาดคอมพิวเตอร์ประมวลผลส่วนใหญ่นั้นอยู่ในสหรัฐ โดยจีนมีส่วนแบ่งน้อยกว่ามาก … แต่ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เชิงรู้สร้าง (Generative AI) ทำให้เป็นครั้งแรกที่ตลาดนี้จะขยายไปยังทุกประเทศอย่างแท้จริง”
นายหวง กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.พ. 67)
Tags: AI, Nvidia, ปัญญาประดิษฐ์, อินวิเดีย