นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยดัชนีเช้านี้น่าจะปรับขึ้นได้ หลังสหรัฐปรับตัวบวกจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจ สะท้อนการค่อยๆ ฟื้นตัวและเงินเฟ้อน่าจะลดลง รวมทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปีปรับลง-ดอลลาร์อ่อนค่าเป็นบวกกับตลาดหุ้นภูมิภาค ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ประเด็นการเมืองที่มีความเคลื่อนไหว แต่ยังไม่มีสัญญาณความร้อนแรงนอกสภา แรงกดดันน่าจะค่อยๆลดลง ตลาดให้น้ำหนักกับปัจจัยพื้นฐานและกำไรบจ. ทั้งให้แนวรับที่ 1,360 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดัชนีน่าจะค่อยๆปรับขึ้นได้ โดยตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวานนี้บวกได้ดี หลังเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐสะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐค่อยๆ ฟื้นตัวและเงินเฟ้อน่าจะลดลง ซึ่งสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นระดับ 49.1 ดีกว่าที่ตลาดคาด
ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นที่ระดับ 2.24 แสนราย มากกว่าคาด สะท้อนว่าภาพแรงงานชะลอลง ดังนั้นแรงกดดันของเงินเฟ้อจะลดลง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐบวกกว่า 1% รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี ปรับตัวลง และดอลลาร์อ่อนค่า น่าจะเป็นบวกกับตลาดหุ้นในภูมิภาค
สำหรับปัจจัยในประเทศ ประเด็นการเมืองที่เริ่มมีความเคลื่อนไหว แต่ในแง่ของความร้อนแรงนอกสภายังไม่มีสัญญาณที่จะมีการชุมนุม ซึ่งแรงกดดันดังกล่าวน่าจะค่อยๆลดลงตามลำดับ และตลาดจะให้น้ำหนักกับปัจจัยพื้นฐาน และกำไรบริษัทจดทะเบียนต่อไป
แต่หากมองในมุม Valuation ของ SET Index อยู่ในระดับที่ต่ำมากแล้ว ซึ่ง P/B 1.31 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวจึงมองว่าดาวน์ไซด์ค่อนข้างจำกัด ขณะที่เมื่อวานนี้ Flow มีสัญญาณให้คาดหวังเล็กน้อย ซึ่งหากยังเข้ามาต่อเนื่องจริง จะส่งผลให้การที่ดัชนีปรับลงแรงไม่น่าจะเกิดขึ้น ดังนั้นมองภาพรวมดัชนีมีโอกาสที่จะแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพ
โดยกลยุทธ์ในการลงทุนวันนี้แนะนำกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง อาทิ TISCO และกลุ่มที่คาดผลประกอบการดี หรือมีผลตอบแทนที่ดี อาทิ CPAXT
โดยให้แนวรับที่ 1,360 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (1 ก.พ.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,519.84 จุด เพิ่มขึ้น 369.54 จุด หรือ +0.97%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,906.19 จุด เพิ่มขึ้น 60.54 จุด หรือ +1.25% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,361.64 จุด เพิ่มขึ้น 197.63 จุด หรือ +1.30%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 15,756.12 จุด เพิ่มขึ้น 189.91 จุด หรือ +1.22% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,773.30 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด หรือ +0.09% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 36,249.99 จุด เพิ่มขึ้น 238.53 จุด หรือ +0.66%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 ก.พ.67) ที่ 1,367.96 จุด เพิ่มขึ้น 3.44 จุด (+0.25%) มูลค่าซื้อขาย 42,001.69 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (1.ก.พ.67) ที่ 2,080.16 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 2.03 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 73.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 ก.พ.67) อยู่ที่ 8.75 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.28 บาท แข็งค่าสอดคล้องภูมิภาค รับดอลลาร์อ่อนค่าหลังบอนด์ยีลด์ชะลอ
- นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยถึงแผนการทำงานของบีโอไอ ปี 2567 ว่า วันที่ 6 กุมภาพันธ์ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) จะประชุมนัดแรกของปี 2567 เพื่อพิจารณาแผนการทำงานของบีโอไอ เบื้องต้นจะเน้นงาน 5 ด้านหลักๆ
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “จับชีพจรประเทศไทย” ในงานสัมมนาฝ่าเศรษฐกิจ ปีงูใหญ่ ชวนสร้างไทยให้ยั่งยืน ซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจเติบโตต่ำ ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการเมือง การแบ่งสีแบ่งค่าย มุ่งยึดฐานเสียงทุกรูปแบบ จึงเปิดช่องให้คนมีทุนเข้ามาทำการเมือง จนกลายเป็นโมเดลธุรกิจการเมืองจนไม่มีผู้มีอำนาจตัดสินใจอย่างแท้จริง
- แก้ ม.112 ลามหนัก! “เรืองไกร” ขู่ไล่บี้ยื่นสอบ “เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง” อ้างเคยหาเสียงแก้ไขกฎหมายคุ้มครองสถาบัน ขอเก็บรวบรวมข้อมูลก่อน ด้าน “เลขาธิการพรรคพท.” ยันไม่หวั่นคนยื่นยุบพรรค ย้ำจุดยืนพรรคคือเราต้องเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบัน ส่วนจะแก้ไขหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับเสียงของประชาชน ส่วนนักร้องมาตามนัด “เรืองไกร-ธีรยุทธ” บุกร้องกกต. ส่งศาล รธน.วินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ปมล้มล้างการปกครอง ฟันธง ก.ก.-กก.บห.” ไม่รอดแน่ เชื่อถูกตัด สิทธิทางการเมือง 10 ปี เล็งยื่นป.ป.ช.ฟันจริยธรรม เชื่อซ้ำรอย “ปารีณา” ขณะที่ขณะที่ “เต้ มงคลกิตติ์” ยื่นหนังสือ ผบ.ตร.พิจารณาเอาผิด “ก้าวไกล” ล้มล้างการปกครองเข้าข่ายผิดข้อหากบฏหรือ ไม่ เชื่ออนาคต ก.ก.ถูกยุบพรรค ตัด สิทธิ กก.บห. 100%
*หุ้นเด่นวันนี้
- ADVANC (กรุงศรี) แนะนำ “ซื้อ” เป้า 262 บาท กำไรสุทธิยังอยู่ในวัฏจักรขาขึ้น คาดกำไรปกติไตรมาส 4/66 ประมาณ 7.7 พันล้านบาท (+16% yoy, +1% qoq) จากรายได้เพิ่มขึ้นตาม ARPU ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนลดลง โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการตลาด และค่าไฟฟ้า
- WHA (ดาโอ) แนะนำ “ซื้อ” เป้าเชิงกลยุทธ์ 4.90 บาท ราคาหุ้นลงมาค่อนข้างมาก กำไร 4Q และภาวะอุตสาหกรรมยังคงดีอยู่ บริษัทเปิดเผย presale ปี 66 ที่ 2.77 พันไร่ และตั้งเป้าปี 67 ที่ 2.28 พันไร่ และขายทรัพย์เข้ากอง WHART และ WHAIR รวม 2.13 แสนตร.ม.
- SNNP (ลิเบอเรเตอร์) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 22.20 บาท คาดกำไรไตรมาส 4/66 ที่ 166 ล้านบาท (+3%,q-q, +8%y-y) และคาดอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น เนื่องจากสัดส่วนการขายกลุ่ม Snack (เบนโตะ และโลตัส) เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำไรดีกว่า Beverage (เจเล่) ผสานการผลิตในเวียดนามดีขึ้น แนวโน้มปี 67 คาดยังไปต่อ โดยคาดยอดขายทั้งในและต่างประเทศจะเติบโตได้ระดับ 2 หลัก จากทั้งสินค้าเดิม และการออกสินค้าใหม่ โดยเราคาดกำไรปี 67 เพิ่มขึ้น +19%y-y
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.พ. 67)
Tags: ชาญชัย พันทาธนากิจ, ตลาดหุ้น, หุ้นไทย