น.ส.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในปี 67 บริษัทมีความพร้อมสำหรับเข้าประมูลงานโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้ง รอบที่ 2 และรอบที่ 3 หลังจากปีที่ผ่านมาบริษัทชนะประมูลในรอบที่ 1 จำนวน 88.66 เมกะวัตต์ ซึ่งรอบใหม่นี้ตั้งเป้าจะได้งานราว 100-150 เมกะวัตต์ คาดว่าจะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 68
ขณะเดียวกัน บริษัทจะเดินหน้ารุกธุรกิจ Private PPA หรือข้อตกลงการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งแบบติดตั้งบนอาคาร และติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนผืนน้ำ (Solar Floating) ของผู้ประกอบการธุรกิจแบบครบวงจร และมีแผนจะทำ M&A โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อย่างเช่นที่เคยทำมาอยู่แล้วเพื่อเสริมความแข็งแกร่งกำลังการผลิต รวมถึงยังมีแผนจับมือกับพันธมิตรในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนในประเทศไทย และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมจับมือพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำธุรกิจ Wellness ซึ่งอยู่ในเมกะเทรนด์ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่คนในสังคมส่วนใหญ่ให้ความสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น เพื่อสร้าง New S-Curve และเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ เริ่มตั้งแต่การเกิด การรักษา และการป้องกัน เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ของการมีสุขภาพดีแบบองค์รวม โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นความคืบหน้าในช่วงครึ่งปีแรกนี้ โดยใช้เงินลงทุนเบื้องต้นกว่า 100 ล้านบาท
สำหรับงบลงทุนในปี 67 บริษัทมีเงินจากการขายโครงการโอนิโกเบ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินในประเทศญี่ปุ่น มูลค่า 13,915 ล้านเยน หรือคิดเป็น 3,434 ล้านบาท การใช้เงินลงทุนจะขึ้นอยู่กับแผนงานแต่ละโครงการที่บริษัทได้รับ แต่หากต้องการเม็ดเงินลงทุนมากขึ้น บริษัทก็มีความมั่นใจในพันธมิตรกับสถาบันการเงินที่พร้อมสนับสนุนการลงทุน เนื่องจากบริษัททำธุรกิจพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“ปี 67 เรามุ่งมั่นทำธุรกิจอย่างเต็มที่ ทั้งด้าน Wellness รับกระแสการดูแลใส่ใจสุขภาพ เพื่อสร้าง New S-Curve ให้บริษัทฯ รวมทั้งเรายังเตรียมทำ M&A โรงไฟฟ้าโซลาร์ และ JV ในงานโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะชุมชน พร้อมเดินหน้าลุยธุรกิจ Private PPA และเข้าประมูลงานโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รอบที่ 2 และรอบที่ 3 เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตอย่าง มั่นคง ควบคู่กับการให้ความสำคัญต่อ ESG อย่างที่สุด”น.ส.แคทลีน กล่าว
ปัจจุบัน TSE มีกำลังการผลิตเสนอขายรวมกว่า 150 เมกะวัตต์ ยังไม่นับรวมกับโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tarif (FT) ปี 65-73 ที่บริษัทชนะประมูลรอบที่ 1 เป็นจำนวนรวม 88.66 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทยอยลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในไตรมาส 1 นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.พ. 67)
Tags: TSE, กกพ., แคทลีน มาลีนนท์, แผนธุรกิจ, โรงไฟฟ้า, ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่