สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันพุธ (31 ม.ค.) หลังจากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลกเปิดเผยว่า ภาคการผลิตของจีนหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันในจีน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.97 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 75.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.16 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 81.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 49.2 ซึ่งแม้ว่าเพิ่มขึ้นจากระดับ 49 ในเดือนธ.ค. 2566 แต่ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว และเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4
ข้อมูลดังกล่าวทำให้ตลาดวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ภายหลังจากศาลสูงฮ่องกงมีคำสั่งให้บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีน ยุติกิจการและขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ที่สูงถึง 3.33 แสนล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 217,000 บาร์เรล ขณะที่การผลิตน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้นแตะระดับ 13 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยขณะนี้สหรัฐและอิหร่านมีความเสี่ยงที่จะเผชิญหน้าทางทหารโดยตรง หลังกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านส่งโดรนโจมตีฐานทัพสหรัฐในจอร์แดนจนทำให้ทหารสหรัฐเสียชีวิต 3 นาย ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า อิหร่านจะต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
นายฮุสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) กล่าวว่า อิหร่านไม่ต้องการสงคราม แต่ก็ไม่กลัวสงครามเช่นกัน และอิหร่านจะไม่ปล่อยให้เกิดภัยคุกคามโดยไม่มีการตอบโต้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.พ. 67)
Tags: WTI, น้ำมัน WTI, ราคาน้ำมัน