หุ้นไทยปิดเช้าลบ 6.63 จุด ลงตามภูมิภาคกังวลศก.จีน-งบหุ้นเทคสหรัฐอ่อนตัว เกาะติดคดีก้าวไกล

SET ปิดเช้าวันนี้ที่ 1,366.51 จุด ลดลง 6.63 จุด (-0.48%) มูลค่าซื้อขายราว 22,641 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับลงตามภูมิภาครับ Sentiment ลบจากความกังวลเศรษฐกิจจีนหลังตัวเลข PMI ออกมาแย่กว่าคาด และรับแรงกดดันจากผลประกอบการหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐหดตัว แนวโน้มช่วงบ่ายคาดแกว่งผันผวนอิงแดนลบ เกาะติดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคดีพรรคก้าวไกล และการส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยเฟด ให้แนวรับ 1,360 จุด และแนวต้าน 1,370 จุด

  • SET ปิดเช้าวันนี้ที่ 1,366.51 จุด ลดลง 6.63 จุด (-0.48%) มูลค่าซื้อขายราว 22,641 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นเช้าวันนี้ ดัชนีปรับตัวลงตามภูมิภาค ทำจุดต่ำสุด 1,362.87 จุด และสูงสุด 1,374.87 จุด

น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับตัวลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นเอเชีย ตอบรับ Sentiment เชิงลบจากความกังวลเศรษฐกิจจีน หลังดัชนีภาคการผลิตหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 สะท้อนภาพชะลอตัว รวมถึงผลประกอบการบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ โดยเฉพาะอัลฟาเบทและไมโครซอฟท์หดตัว ทำให้เกิดแรง Sell on fact และส่งผลลบมายังตลาดในภูมิภาค รวมถึงหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์บ้านเรา

แนวโน้มช่วงบ่ายคาดแกว่งผันผวนอิงแดนลบ นักลงทุนยังให้น้ำหนักกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคดีพรรคก้าวไกลหาเสียงยกเลิกมาตรา 112 ว่าจะเข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ หากศาลชี้ว่าเข้าข่ายอาจนำไปสู่การยุบพรรค หรือพ้นความเป็น สส. จึงกังวลว่าจะเกิดการเคลื่อนไหวทางการเมืองตามมาหรือไม่

ขณะเดียวกันก็รอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยเฉพาะการหาสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงเมื่อใด ทำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวัง

ให้แนวรับ 1,360 จุด และแนวต้าน 1,370 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

  • ADVICE มูลค่าการซื้อขาย 1,640.26 ล้านบาท ปิดที่ 4.88 บาท เพิ่มขึ้น 1.64 บาท
  • PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,638.93 ล้านบาท ปิดที่ 149.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
  • AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,024.61 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
  • KTB มูลค่าการซื้อขาย 843.68 ล้านบาท ปิดที่ 15.80 บาท ลดลง 0.30 บาท
  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 827.26 ล้านบาท ปิดที่ 119.50 บาท ลดลง 2.00 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ม.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top