ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 สำหรับรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับกระทรวงยุติธรรม และสำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
– กระทรวงยุติธรรม มีจำนวน 2 โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 3,390.41 ล้านบาท ประกอบด้วย
1. โครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 1,767.25 ล้านบาท
2. โครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดยโสะร พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบตำบลสำราญ อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร จำนวนเงิน 1,623.16 ล้านบาท
การก่อสร้างเรือนจำแห่งใหม่ เพื่อทดแทนเรือนจำเดิมที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรมและถูกใช้งานมาเป็นเวลานาน อีกทั้งทำให้เรือนจำมีโครงสร้าง และส่วนประกอบอาคารที่ได้มาตรฐาน สามารถควบคุม และป้องกันการหลบหนีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีพื้นที่ที่เอื้อต่อการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง สำหรับการฟื้นฟู และพัฒนาพฤตินิสัยอย่างเป็นสัดส่วนตามหลักสากล รวมทั้งมีระบบกำจัดขยะมูลฝอยและน้ำเสีย ซึ่งป้องกันไม่ให้เกิดปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อมต่อชุมชน ตลอดจนสามารถอำนวยความสะดวก และให้บริการประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ
นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้ให้ข้อสั่งการว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบในรายละเอียดให้งบประมาณที่จะใช้ในการก่อสร้างนั้น มีความเหมาะสมกับขนาดและความจำเป็นของรูปแบบเรือนจำ
– กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีจำนวน 9 รายการ (ภายใต้โครงการจำนวน 7 โครงการ) วงเงินรวม 3,572.1750 ล้านบาท (ระยะเวลาโครงการ 4 ปี พ.ศ.2568-2571 รวมงบทั้งสิ้นรวม 17,448.84 ล้านบาท) ประกอบด้วย
1.โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำกิ จังหวัดน่าน ใช้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำในฤดูแล้งและบรรเทาปัญหาอุทกภัย
2.โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้พื้นที่ชลประทานบริเวณ 2 ฝั่งคลองชลประทาน
3.โครงการปรับปรุงคลองชักน้ำแม่น้ำยมฝั่งขวา จังหวัดสุโขทัย เป็นแหล่งกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝนและช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดสุโขทัย
4.โครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จังหวัดจันทบุรี เพื่อเพิ่มพื้นที่ชลประทาน บรรเทาอุทกภัยในบริเวณพื้นที่ตอนกลางและตอนล่างของลุ่มน้ำคลองวังโตนด และเป็นแหล่งน้ำดิบสำรองให้กับพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
5.โครงการปรับปรุงคลองระพีพัฒน์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง ป้องกันและลดปัญหาน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ใต้คลองหกวาสายล่างถึงคลองประเวศบุรีรมย์
6.โครงการปรับปรุงคลองบางขนาก จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อช่วยบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเพื่อเพิ่มผลประโยชน์ทางการเกษตรสำหรับโครงการเพาะปลูกในพื้นที่บางส่วนของจังหวัดฉะเชิงเทรา
7.โครงการปรับปรุงคลองระพีพัฒน์แยกใต้ จังหวัดปทุมธานี เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง ทั้งในด้านการส่งน้ำชลประทานและด้านการระบายน้ำหลาก ทั้งในช่วงฤดูน้ำหลากและฤดูแล้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ม.ค. 67)
Tags: กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ครม., ประชุมครม., มติคณะรัฐมนตรี