SAMART จุดพลุปี 67 กำไรนิวไฮรอบ 8 ปี ดันทุกธุรกิจโตอัพรายได้ 30% เล็งเป้ารุกเข้าลาว

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) คาดว่าปีนี้จะทำกำไรมากสุดในรอบ 7-8 ปี เนื่องจากทุกธุรกิจมีการเติบโต โดยวางเป้ารายได้ของกลุ่มเติบโต 30% มาที่ 13,127 ล้านบาท จากปีก่อนคาดปิดสิ้นปีเฉียด 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งรายได้ปีนี้จะมาจากงานในมือที่มีอยู่ 15,000 ล้านบาทจะทยอยรับรู้กว่า 40% หรือราว 5-6 พันล้านบาท อีกทั้ง บมจ.สามารถ เทเลคอม (SAMTEL) จะเข้าประมูลงานมากขึ้น ขณะที่ บมจ.สามารถดิจิทัล (SDC) ที่ปีนี้เริ่มรับรู้รายได้ค่าแอร์ไทม์ของบริการ Digital Trunk Radio เป็นปีแรก เชื่อว่าจะพลิกเป็นกำไรได้          

ทั้งนี้ ในงวด 9 เดือนปี 66 กลุ่ม SAMART มีผลขาดทุน 206.8 ล้านบาท ลดลง 95% จากงวดเดียวกันของปี 65 ที่มีผลขาดทุน 588.79 ล้านบาท
          

นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า ปีนี้รายได้จะมาจากกลุ่ม 3 ธุรกิจ คือ ธุรกิจ Digital Solution คาดรายได้ 5,956  ล้านบาท ธุรกิจ Utilities & Transportations  5,557 ล้านบาท และ Digital Communications  คาดรายได้ 1,614 ล้านบาท  
          

ขณะที่บริษัทจะใช้งบลงทุนราว 4-5 พันล้านบาท ขึ้นกับงานที่ดีลใหม่กับภาครัฐ ซึ่งกลุ่ม SAMART ยังมุ่งเน้นธุรกิจ B2G โดยจะเป็นผู้ลงทุนให้กับภาครัฐก่อนแล้วเปลี่ยนมารับรายได้จากการให้บริการกับประชาชน อาทิ กรมสรรพากร ที่บริษัทได้ลงทุนให้รัฐก่อน 1,300 ล้านบาทในโครงการ Direct Coding หรือโครงการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดเก็บภาษีสินค้า ประเภทสุราชนิดเบียร์ โดยใช้ระบบพิมพ์รหัสควบคุมบนบรรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้จะมีระบบ SAP เหล่านี้จะทำให้กลุ่ม SAMART มีรายได้สม่ำเสมอในระยะยาว และทำให้สัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) เพิ่มเป็น 40% และตั้งเป้าจะเพิ่มขึ้นอีกเป็น 50%
          

กลยุทธ์ของกลุ่มสามารถในปีนี้ เน้นการสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนผ่าน 1.การนำเสนอ Outsourcing Business Model และการแสวงหาแหล่งเงินทุนใหม่ๆ เพื่อลดภาระการใช้งบประมาณภาครัฐและเพิ่มโอกาสในการได้งาน 2.การแสวงหาความร่วมมือในรูปแบบใหม่กับ Strategic Business Partner เพื่อเพิ่มโอกาสและศักยภาพในการแข่งขัน 3.การเร่งขยายบริการด้านเทคโนโลยีที่บริษัทมีประสบการณ์และความชำนาญไปสู่ฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว ด้วยความเชื่อมั่นในโอกาสและศักยภาพของบริษัท
        

“ในปี 2024 เราสร้างงานที่ใช้ความรู้ความชำนาญมากขึ้น  อัพสกิลตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ หาธุรกิจที่มีเทคโนโลยี แม้ว่าปีนี้ภาพเศรษฐกิจรวมยังไม่ดีมาก  รัฐบาลก็เพิ่งเข้ามาทำให้งบประมาณล่าช้า การแช่งขันก็รุนแรง…..เราพยายามมองหาธุรกิจมีอนาคตยาวๆ  ปีนี้น่าจะเกิดอีก 1 ธุรกิจ”นายวัฒน์ชัย กล่าว

 

SAMTEL งานใหม่พุ่ง 

 

นายจง ดิลกสมบัติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SAMTEL คาดว่างานใหม่ที่จะเซ็นสัญญาในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท ช่วยเพิ่ม Backlog ที่มีอยู่ 2,355 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นงานที่เลื่อนมาจากงบประมาณปี 66 มาใช้งบประมาณปี 67 โดยในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 6,000 ล้านบาท เติบโต 30%
          

งานใหม่จะมาจาก Digital Government Transformation เช่น กรมที่ดิน , Banking Solutuions โดยบูรณาการข้อมูลภาครัฐกับธนาคารรัฐ , ERP ที่มีลูกค้าอยู่ เช่น การประปานครหลวง , Upgrade CCTV with AI  , Technology for ESG , Outsorcing Services ลดพึ่งพางบลงทุนรัฐ

 

Utilities & Transportations

 

 ในปี 67 สายธุรกิจ Utilities & Transportations ตั้งเป้ารายได้ 5,500 ล้านบาท เติบโต 23% โดยมาจาก บมจ.สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่น (SAV) คาดว่าการจราจรทางอากาศในกัมพูชาจะเติบโตภายใต้ CATS (บ.ย่อย) คาดว่ารายได้จะเติบโต 30% ตามภาพรวมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภูมิภาค
          

ล่าสุด กัมพูชาได้มีการเปิดให้บริการสนามบินนานาชาติเสียมราฐอังกอร์แห่งใหม่แล้ว ซึ่งมีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวสูงสุด 7 ล้านคน และในครึ่งปีหลังคาดว่าจะเปิดสนามบินนานาชาติดาราสาครอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทเห็นโอกาสขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสนามบินและวิทยุการบินในระดับภูมิภาค โดยระหว่างนี้กำลังเจรจากับทาง สปป.ลาว ด้วย
          

ส่วนธุรกิจ Power Construction & Services ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสถานีและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง โดยบริษัทเทด้าและทรานเส็ค งานในมือปัจจุบันรวม 4,000 ล้านบาท และมีแผนจะเข้าประมูลอีกกว่า 3,500 ล้านบาทในปีนี้ , โครงการ Direct Coding ตั้งเป้ารายได้ 981 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% จากการเปิดโรงงานเบียร์แห่งใหม่และการขยายกำลังการผลิตของโรงงานเดิม เพื่อรองรับปริมาณการบริโภคที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากนโยบาย Free VISA และการขยายเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิง
          

ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังมีแผนที่จะขยายฐานธุรกิจบริการระบบพิมพ์รหัสควบคุมบนบรรจุภัณฑ์ หรือ Direct Coding ไปสู่การจัดเก็บภาษีสินค้าอื่นๆ อาทิ ยา และ น้ำมันที่ใช้ภายในประเทศอีกด้วย

 

SDC พลิกมีกำไร
      

สายธุรกิจ Digital Communications คาดจะมีรายได้ปีนี้ 1,614 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจาก บมจ.สามารถ ดิจิทัล (SDC) ในปีนี้ที่มีรายได้ 1,449 ล้านบาท สามารถ ดิจิทัล มีเดีย 13 ล้านบาท iSport 72 ล้านบาท และ ลัคกี้ เฮงเฮง รายได้ 73 ล้านบาท
          

SDC มีธุรกิจ Digital Trunk Radio ที่เติบโตอย่างชัดเจนในปีที่ผ่านมา โดยมีการรับรู้รายได้จากการจำหน่ายเครื่องวิทยุลูกข่ายและค่าใช้บริการ Air Time เพิ่มขึ้น 300% โดยในปี 67 บริษัทมีแผนขยายฐานผู้ใช้บริการให้กว้างและครอบคลุมหน่วยงานที่ให้บริการประชาชน ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยตั้งเป้าจำนวนผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 120,000 ราย จาก 90,000 ราย  และคาดว่าจะพลิกมีกำไร
         

ด้านธุรกิจสายมู ซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูง บริษัท Lucky Heng Heng ในฐานะบริษัท น้องใหม่ของกลุ่มสามารถ ตั้งเป้าเป็นผู้นำในธุรกิจ Mu tech ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยบริการครบวงจร 4 รูปแบบ คือ ดูดวง online ภายใต้ Horoworld ผ่าน Application และ Website ที่เป็นศูนย์รวมนักพยากรณ์ในศาสตร์ต่างๆมากที่สุดกว่า 200 ท่าน พร้อมให้บริการ 24 ชม.
          

อีกทั้งมีบริการทำบุญ online ภายใต้ Thai Merit ปัจจุบันเป็น Platform การทำบุญสำหรับวัดต่างๆ เช่น วัดเล่งเน่ยยี่ พุทธคยาที่ประเทศอินเดีย และอีกกว่า 100 วัดชื่อดังในประเทศไทย ที่สายบุญสามารถทำบุญออนไลน์ได้อย่างสะดวกและมั่นใจ , บริการ Mu Commerce จำหน่ายสินค้าของวัตถุมงคลต่างๆ และ Muketing หรือ Marketing Agency สายมูให้กับลูกค้าองค์กรต่างๆในกลุ่มธนาคาร , ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ และธุรกิจค้าปลีกต่างๆ โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยายบริการสู่กลุ่มอื่นๆ
          

นอกจากนั้นจะได้มีการเปิดตัวธุรกิจใหม่ของบริษัทในเครืออย่างเช่น Samart Digital Media และ ISPORT ในปีนี้อีกด้วย

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ม.ค. 67) 

 

Tags: , , , , ,
Back to Top