นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2567 ที่ จ.ระนอง มีมติอนุมัติตามข้อเสนอของที่ประชุมบูรณาการการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน (6 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง สตูล) ร่วมกับภาคธุรกิจในพื้นที่ (กรอ.อันดามัน) ที่ได้ขอการสนับสนุนการจัดทำโครงการเพื่อพัฒนาภาคใต้ฝั่งอันดามัน โดยอนุมัติทั้งหมด 18 โครงการ จากที่เสนอมาทั้งหมด 20 โครงการ เนื่องจากใน 2 โครงการที่ภาคเอกชนเสนอมา มีความซ้ำซ้อน เพราะอยู่ภายใต้การเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 67 อยู่แล้ว
โดยทั้ง 18 โครงการดังกล่าว ประกอบด้วย โครงการของภาครัฐ 13 โครงการ มูลค่ารวม 350 ล้านบาท และโครงการของภาคเอกชน 5 โครงการ มูลค่ารวม 202 ล้านบาท
“ทั้งหมดรวมทั้งสิ้น 18 โครงการ วงเงินรวม 552 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุม ครม.สัญจร เห็นชอบและอนุมัติตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชนเสนอมา” นายชัย ระบุ
สำหรับโครงการของภาครัฐ 13 โครงการ ที่ได้รับการอนุมัติ เช่น โครงการปรับปรุงถนนและระบบสาธารณูปโภค พร้อมปรับภูมิทัศน์ ถนนจัดสรรพัฒนา ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง วงเงิน 50 ล้านบาท, โครงการท่าเทียบเรืออัจฉริยะ จ.พังงา วงเงิน 42.5 ล้านบาท
ส่วนโครงการของเอกชน 5 โครงการ ที่ได้รับการอนุมัติ เช่น โครงการปรับปรุงและยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน ถนนท่องเที่ยวชุมชนเกาะยาวใหญ่ จ.พังงา เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ท้องถิ่น งบ 55 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง-เกาะสอง ของบ 70.5 ล้านบาท เป็นต้น
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเพิ่มศักยภาพการพัฒนาจังหวัดระนอง เนื่องจากสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ในปัจจุบันมีสภาพทรุดโทรม ขาดการบูรณะฟื้นฟูและซ่อมบำรุงให้อยู่ในสภาพที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ดี
“จากการที่ผมลงพื้นที่และหารือกับภาคส่วนต่างๆ ในจังหวัดระนองแล้ว เห็นว่าจังหวัดระนองจำเป็นต้องเร่งเพิ่มขีดความสามารถด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่ง เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น” นายเศรษฐา กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ม.ค. 67)
Tags: ครม.สัญจร, ชัย วัชรงค์, ประชุมครม., ภาคใต้, อันดามัน, เศรษฐา ทวีสิน