ราคาหุ้น JMT ทรงยังไม่ดีขึ้นจากวานนี้ที่ปรับลงไป 8.24% ฉุดให้ JMART ลดลง 3.75% (ปรับลงมาตั้งแต่งวันที่ 17 ม.ค.) รวมทั้ง SGC ปรับลงมา 3.50% ด้วย
เมื่อเวลา 11.48 น. JMT ปรับลง 4.70% หรือลดลง 1.10 บาท มาที่ 22.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 822.03 ล้านบาท
JMART ปรับลง 2.60% หรือลดลง 0.40 บาท มาที่ 15.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 129.72 ล้านบาท
SGC ปรับลง 1.45% หรือลดลง 0.02 บาท มาที่ 1.36 บาท มูลค่าซื้อขาย 6.90 ล้านบาท
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พาย กล่าวว่า การปรับตัวลงของหุ้นบมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) มาจากความกังวลคุณภาพลูกหนี้ และความสามารถชำระหนี้ กังวลว่า JMT จะตามหนี้ได้ตามเป้าหมายหรือไม่
อีกทั้งนโยบายรัฐบาลที่ให้ธนาคารของรัฐจัดตั้ง AMC อาจทำให้มีคู่แข่งมากขึ้น และ ธนาคารพาณิชย์อาจจะกลับมาบริหารจัดการลูกหนี้เอง นักลงทุนอาจกังวลว่าอนาคตจะมีหนี้ออกมาขายน้อยลง ทำให้ผลประกอบการ JMT ไม่เป็นไปตามเป้า การแข่งขันสูง และภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอก็จะกระทบให้การจ่ายหนี้ของลูกหนี้ ทำให้เก็บหนี้ได้น้อยลง
ในปีที่แล้ว JMT เข้าซื้อหนี้เสียจำนวนมากน่าจะพอรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ แต่กังวลคุณภาพลูกหนี้เกรงว่าบริษัทจะมี Cash Correcttion น้อย ส่งผลให้ต้องตั้งสำรองมากชึ้นเหมือนในไตรมาส 3/66 ที่ Cash Correcttion ต่ำกว่าเป้าหมาย
ความกังวลนี้ยังส่งผลไปถึง บมจ.เจมาร์ท (JMART) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ JMT เพราะหากผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย JMART ก็จะรับผลกระทบด้วย ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงตามไปด้วย
ส่วน บมจ.เอสจี แคปปิตอล (SGC) อยู่ในธุรกิจจำนำทะเบียนรถ นักลงทุนก็กังวลราคารถที่ยึดได้จะปรับตัวลง ก็จะกระทบต่อผลประกอบการ
กลุ่ม JMART ก็ต้องพิสูจน์ฝีมือ จึงต้องติดตามงบการเงินไตรมาส 4/66 ว่าจะเป็นไปตามที่ได้ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ม.ค. 67)
Tags: JMART, JMT, SGC, หุ้นร่วง, หุ้นไทย