นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ท่าเรือระนอง-เกาะสอง จ.ระนอง โดยได้รับฟังสรุปรายงานจาก 4 หน่วยงาน (ด่านศุลกากร ด่านตรวจประมง ตรวจคนเข้าเมือง จัดหางานระนอง) เพื่อติดตามประเด็นการค้าชายแดน แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร การประมงการแก้ไขปัญหา IUU
สำหรับประเด็นเรื่องท่าเรือระนอง ที่ได้รับฟังความเห็นซึ่งมีหลากหลายมิตินั้น นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการปรับท่าเรือระนองให้มีการยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้น เพราะรัฐบาลคำนึงถึงการค้าชายแดน และการเดินทางของนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงท่าเรือระนองแต่เพียงอย่างเดียว คงไม่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด แต่ต้องดูเรื่องการขนส่งสินค้าทั้งขาเข้า-ขาออก ก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะประกอบการต้องการความสะดวกสบาย แบบ one stop service เวลามาแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาในการคอย หรือต้องผ่านหลาย ๆ โต๊ะ ตรงนี้ก็เป็นนโยบายของรัฐบาลนี้ ที่ต้องการจะทำให้ท่าเรือระนองแห่งนี้ มีความทันสมัย และมีความสะดวกสบาย
พร้อมยืนยันว่า คงไม่แค่เพียงการปรับปรุงท่าเรือระนองให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่รัฐบาลจะดูแลไปถึงเรื่องของการทำประมงด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของการแก้ไขปัญหา IUU ที่เกิดผลสำเร็จไปในระดับหนึ่งแล้ว ทำให้สามารถปลดล็อกเรือประมงไทยให้ออกไปค้าขายดีขึ้น
ทั้งนี้ ในภาพใหญ่ รัฐบาลต้องการพลิกฟื้นอาชีพประมงไทย เพราะ 9 ปีที่ผ่านมา กฎหมายประมงไม่ตรงกับแนวทางปฏิบัติจริง ผู้ประกอบการประมงรายเล็ก กว่า 20,000 ราย ต้องเลิกกิจการไป รัฐบาลจึงได้ปรับ พ.ร.บ. ประมงเพิ่มเติมฯ เพื่อทำให้ประมงไทยกลับมามีรายได้และส่งออกได้มากขึ้น คนไทยได้ทานอาหารทะเลที่มีคุณภาพและราคาถูก อนุรักษ์ทะเลได้อย่างยั่งยืน
ขณะเดียวกัน ก็เคารพในกติกาสากลที่เป็นธรรมและเท่าเทียม ดูแลคุ้มครองแรงงานไม่ให้ผิดหลักสิทธิมนุษยชน และทำให้สินค้าประมงจากไทยโปร่งใส ตรวจสอบได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ม.ค. 67)
Tags: การค้า, การท่องเที่ยว, ชัย วัชรงค์, ท่าเรือระนอง, นักท่องเที่ยว, ระนอง, เศรษฐา ทวีสิน