กระทรวงกลาโหมอังกฤษประกาศในวันนี้ (21 ม.ค.) เกี่ยวกับแผนการใช้งบประมาณ 405 ล้านปอนด์ (ประมาณ 514 ล้านดอลลาร์) เพื่อปรับปรุงระบบขีปนาวุธที่กองทัพเรือใช้เพื่อป้องกันโดรนและขีปนาวุธในทะเลแดง
แถลงการณ์ระบุว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศซีไวเปอร์ (Sea Viper Air Defence) ระได้รับการปรับปรุง รวมถึงการเพิ่มหัวรบและซอฟท์แวร์ใหม่ เพื่อช่วยให้ระบบสามารถตอบโต้ภัยคุกคามที่เกิดจากขีปนาวุธได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทเอ็มดีบีเอ (MDBA) สาขาประเทศอังกฤษ กิจการร่วมค้าด้านขีปนาวุธซึ่งมีแอร์บัส (Airbus) บีเออี ซิสเต็มส์ (BAE Systems) และเลโอนาร์โด (Leonardo) เป็นเจ้าของร่วม ได้รับสัญญาจ้างปรับปรุงระบบดังกล่าว โดย MDBA เป็นบริษัทผู้ผลิตอาวุธให้กับประเทศต่าง ๆ ในยุโรป
“ในขณะที่สถานการณ์ในตะวันออกกลางเลวร้ายลง การปรับตัวเพื่อรักษาความปลอดภัยของสหราชอาณาจักร พันธมิตร และคู่ค้าของเรา เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง” นายแกรนท์ แชปส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอังกฤษ กล่าว
นายแชปส์กล่าวเสริมว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศซีไวเปอร์ เป็นระบบที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในกรณีนี้ โดยเป็นระบบแรกในรอบ 30 ปี ที่กองทัพเรือเลือกใช้สำหรับการยิงสกัดการโจมตีทางอากาศ
ทั้งนี้ กองทัพเรือสหรัฐและกองทัพเรืออังกฤษได้ยิงสกัดโดรนและขีปนาวุธที่ยิงโดยกลุ่มกบฎฮูตีในทะเลแดงอย่างต่อเนื่องในเดือนนี้ ในขณะที่ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสขยายตัวลุกลามบานปลายออกไปยังในภูมิภาคที่กว้างขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ม.ค. 67)
Tags: กลุ่มกบฏฮูตี, ทะเลแดง, อังกฤษ