นายซาดีค ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน เปิดเผยในวันนี้ (19 ม.ค.) ว่า ค่าโดยสารระบบขนส่งสาธารณะส่วนใหญ่ในกรุงลอนดอนจะยังคงเท่าเดิมในปีนี้ โดยความเคลื่อนไหวนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยลดแรงกดดันด้านค่าครองชีพ และเพื่อสนับสนุนภาคการค้าปลีกและการบริการ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประชาชนในกรุงลอนดอนและทั่วสหราชอาณาจักรต้องระมัดระวังและเข้มงวดเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องจากวิกฤตค่าครองชีพส่งผลให้ราคาสิ่งของทุกอย่างพุ่งสูงขึ้น ตั้งแต่อาหาร ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์
นายข่าน กล่าวว่า วิกฤตค่าครองชีพยังคงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อชาวลอนดอน พร้อมเสริมว่าได้มีแผนจัดสรรเงินจำนวน 123 ล้านปอนด์ (156 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อตรึงราคาค่าโดยสารจนถึงเดือนมี.ค. 2568
“การตัดสินใจนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้คนประหยัดเงิน ด้วยการทำให้ค่าโดยสารมีราคาย่อมเยามากขึ้นสำหรับชาวลอนดอนหลายล้านคน แต่ยังกระตุ้นให้ผู้คนใช้เครือข่ายการขนส่งสาธารณะมากขึ้นด้วย” นายข่าน กล่าว
การระงับขึ้นค่าโดยสารจะครอบคลุมการโดยสารสาธารณะทุกประเภท ตั้งแต่รถประจำทาง รถราง รถไฟใต้ดิน รถไฟด็อคแลนด์ไลท์ (Docklands Light) รวมถึงค่าโดยสารส่วนใหญ่ของสายไฟสายเอลิซาเบธใหม่ และรถไฟบนดินด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ สำนักงานการคมนาคมลอนดอนวางแผนจะปรับขึ้นค่าโดยสาร 4%
ทั้งนี้ แม้จะมีการตรึงราคาค่าโดยสาร แต่กรุงลอนดอนยังคงเป็นเมืองที่ค่าโดยสารระบบขนส่งสาธารณะสูงเป็นอันดับต้น ๆ ในยุโรป โดยรายงานจากกรีนพีซเมื่อปี 2566 จัดอันดับระบบขนส่งสาธารณะของลอนดอนว่าเป็นระบบที่แย่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในบรรดาเมืองหลวงของยุโรป โดยเป็นรองเพียงดับลินเท่านั้น เมื่อประเมินในเรื่องราคาและความสะดวก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ม.ค. 67)
Tags: รถสาธารณะ, ลอนดอน