สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA รายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. พบหลายจังหวัดมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เกินมาตรฐาน โดยพบค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) จำนวน 22 จังหวัด
โดยจังหวัดที่มีค่า PM 2.5 สูงติด 5 อันดับแรก คือ 1. สมุทรสาคร 153.7 ไมโครกรัม 2. สมุทรสงคราม 145.4 ไมโครกรัม 3. นครปฐม 118.1 ไมโครกรัม 4. นนทบุรี 113 ไมโครกรัม และ 5. กรุงเทพฯ 110 ไมโครกรัม ส่วนอีก 23 จังหวัด ค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม
ขณะที่กรุงเทพมหานคร พบค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ สีแดงทุกเขตของพื้นที่ อาทิ หนองแขม 167.1 ไมโครกรัม บางกอกใหญ่ 152.2 ไมโครกรัม ธนบุรี 145.8 ไมโครกรัม บางบอน 142.7 ไมโครกรัม ทวีวัฒนา 142 ไมโครกรัม เป็นต้น
ทั้งนี้ จากข้อมูลจุดความร้อนที่รายงานโดย GISTDA เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 67 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 389 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่เกษตร 168 จุด ตามด้วยพื้นที่เขตสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) 76 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 68 จุด ชุมชนและอื่นๆ 41 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 26 จุด พื้นที่ริมทางหลวง 10 จุด และ โดยจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1. ลพบุรี 44 จุด 2. ชัยภูมิ 22 จุด และ 3. ชลบุรี 22 จุด
นอกจากนี้ ประเทศเพื่อนบ้านที่พบจุดความร้อน มากสุดอยู่ที่กัมพูชา 1,999 จุด ตามด้วย พม่า 439 จุด ลาว 174 จุด และเวียดนาม 120 จุด
ดังนั้น แนะนำให้ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ม.ค. 67)
Tags: กทม., กรุงเทพมหานคร, ฝุ่น PM 2.5, ฝุ่น PM2.5, ฝุ่นพิษ, ฝุ่นละออง, มลพิษทางอากาศ